สัมภาษณ์คุณสุวิตา จรัญวงศ์ CEO & Co-founder บริษัท Tellscore ในงาน Thailand Influencer Awards 2025

คำถามที่ 1: Rainbow Economy & LGBTQIAN+ Creators – ปัจจุบันกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQIAN+ กำลังเติบโตและสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง ถ่ายทอดคอนเทนต์ที่จริงใจและสะท้อนการยอมรับในสังคมที่เพิ่มขึ้น คุณมองว่าแบรนด์ที่เข้าใจและร่วมงานกับกลุ่มครีเอเตอร์นี้ จะได้รับประโยชน์อย่างไร? และสามารถสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผู้บริโภคได้มากกว่าการทำการตลาดแบบเดิมอย่างไร?
ตอบ:
Rainbow Economy หรือเศรษฐกิจสีรุ้ง ไม่ใช่เพียงโอกาสทางการตลาด แต่คือภาพสะท้อนของสังคมที่เปิดกว้างและพร้อมเติบโตไปกับความหลากหลาย สำหรับ Tellscore เรามองว่าพื้นที่ของครีเอเตอร์ LGBTQIAN+ ไม่ใช่เพียงเรื่องของ Diversity แต่คือ Strategic Inclusion ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้ลึกซึ้งขึ้น
การทำงานร่วมกับ LGBTQIAN+ ครีเอเตอร์ ไม่ใช่แค่การทำแคมเปญ แต่คือการลงทุนสร้างความสัมพันธ์เชิงคุณค่ากับผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่ให้ความสำคัญกับ Trust, Authenticity และ Inclusion แบรนด์ที่เข้าใจและเปิดพื้นที่ให้ครีเอเตอร์กลุ่มนี้ได้เป็นตัวของตัวเอง จะได้รับประโยชน์ทั้งเชิงธุรกิจและ Trust ไปพร้อมกัน
ในเชิงธุรกิจ กลุ่มผู้บริโภค LGBTQIAN+ มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่ม DINK (Double Income, No Kids) ที่มีแนวโน้มเลือกแบรนด์ที่สะท้อนตัวตนมากกว่าการตามกระแส พวกเขาเป็นกลุ่มที่ภักดีและ Active บนโซเชียลมีเดียสูง การที่ครีเอเตอร์ LGBTQIAN+ ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยความจริงใจ ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์ จึงสามารถเปลี่ยนจากการสร้างแค่ Awareness ไปสู่การสร้าง Emotional Bond ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของโลกในด้าน LGBTQ+ Healthcare Industry โดยเฉลี่ยรองรับปีละกว่า 1.2 ล้านคน โดยเฉพาะสำหรับการผ่านตัดแปลงเพศ ฮอร์โมน สุขภาพจิต (ที่มา Policy Watch by Thai PBS)
ในส่วนของอุตสาหกรรมซีรี่ส์วาย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยผลิตคอนเทนต์ซีรีส์วายกว่า 177 เรื่อง ในปี 2567 ซีรี่ส์วายเติบโตกว่าเดิมอีกเท่าตัว มูลค่าตลาดแตะ 2,000 ล้านบาท (ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
ด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยติดอันดับที่ 54 จาก 213 ประเทศทั่วโลกในด้านภาพจำว่าเป็นมิตรต่อกลุ่ม LGBTQ+ (ที่มา Gay Travel Index 2024) และในช่วงเทศกาล Pride Month ตลอดเดือนมิถุนายน 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่ามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 860,000 คน และสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท
อีกด้านหนึ่ง ความร่วมมือกับครีเอเตอร์กลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์มี Inclusivity จริง ไม่ใช่ทำเฉพาะ Pride Month แล้วหายไป แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับชุมชนที่มีตัวตนและมีพลังในเศรษฐกิจสมัยใหม่ แบรนด์ที่ทำได้จะไม่เพียงแต่สร้างยอดขาย แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแรงและได้รับการยอมรับในระดับสากล
Tellscore มองว่าครีเอเตอร์ LGBTQIAN+ คือเส้นเสียงของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถขยายพลัง Soft Power ของไทยไปสู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านคอนเทนต์บันเทิง ซีรีส์วาย การท่องเที่ยว หรือ Creator Commerce และในอนาคตพวกเขาจะไม่ใช่เพียงผู้รีวิวสินค้า แต่จะเติบโตไปเป็นแบรนด์ และสื่อของตัวเอง การที่แบรนด์ลงทุนในความสัมพันธ์ระยะยาวกับครีเอเตอร์กลุ่มนี้ จึงเป็นการสร้างทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจ และ Emotional Capital ที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
คำถามที่ 2: Creators of Change – ในปีที่ผ่านมา มีครีเอเตอร์คนใดที่คุณมองว่าเป็น “Creators of Change” และสร้างแรงกระเพื่อมที่น่าจับตาที่สุด?
ตอบ:
ตามชื่อเลย Creators of Change “ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก พารอด” ในปีนี้เราคิดว่าไม่ใช่เรื่อง “ใครคือที่สุดของแต่ละสาย” แต่คือการที่อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์หลากหลายสายร่วมกันสร้างแรงกระเพื่อมให้ประเทศไทยเห็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมจากกระบอกเสียงของพวกเขา ที่จะเป็นส่วนหนึ่งซึ่งจะช่วยให้เราผ่านพ้นความท้าทายของเศรษฐกิจที่ซบเซาครั้งนี้ไปได้
Tellscore มองว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เกิดจาก “พลังร่วม” ของครีเอเตอร์ที่เลือกใช้แรงกระเพื่อมของเสียงตัวเองได้อย่างชาญฉลาด อย่างปีนี้เราจะเห็นสายแมสอย่าง Travel, Food, Beauty ที่ไม่เพียงทำคอนเทนต์ด้านไลฟ์สไตล์ แต่กระโดดออกมาขับเคลื่อนด้าน Soft Power อย่างจริงจังส่งผลให้ผู้ชมในต่างประเทศได้อึ้งในมุมมองและความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราว หรือสาย CreatorPreneur, Real-World Finance, Tech, Automotive ที่ไม่ได้ทำแค่คอนเทนต์ในสาย แต่แก่กล้าในการทำคอนเทนต์ที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจ การเงิน เทคโนโลยี ยานยนต์ EV ที่มีความผันผวนให้ผู้บริโภคได้ตื่นตัวทันกับเหตุการณ์ และนอกจากนั้นเรายังมีรางวัล Best Social Impact Influencer Award ที่เราจะมอบบนเวที Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore ปีนี้ ผู้เข้าชิงทั้งสามล้วนสะท้อน “พลังของคอนเทนต์ที่เปลี่ยนแปลงสังคม” ในมิติที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น รายการ โหนกระแส ของคุณหนุ่ม กรรชัย ที่กลายเป็น “ที่พึ่งของประชาชน” ในการเปิดโปงความจริงและเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม หรือ ช่อง DOM (ดม) ที่เลือกใช้ความคิดสร้างสรรค์และสไตล์การเล่าที่เฉียบคม เพื่อตีแผ่กลโกงในอินเตอร์เน็ตและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้บริโภค และช่อง ครูวัตร อนุวัตร ที่ใช้พลังของคอนเทนต์จากโรงเรียนเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล แต่สะเทือนใจทั้งประเทศ และทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าของครูในพื้นที่ชายขอบ
เรามองว่า ทั้งสามตัวอย่างนี้สะท้อนว่า Creators of Change ไม่ได้หมายถึงการมีผู้ติดตามมากมายในโซเชียลมีเดีย แต่หมายถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและเศรษฐกิจผ่านคอนเทนต์ที่เขาทำ
คำถามที่ 3: ผีเสื้อ 7 ตัวในธีม Creators of Change ในปีนี้ คืออะไร? และมีความหมายของผีเสื้อตัวไหนที่คุณอยากพูดถึงเป็นพิเศษหรือไม่?
ตอบ:
ที่มาของ “ผีเสื้อ 7 ตัว” คือ Visual ของธีมงานเราในปีนี้ “Creators of Change” ส่วนหนึ่งมาจากการที่งาน Thailand Influencer Awards 2025 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 และสื่อถึงการที่ครีเอเตอร์ไม่ได้มีคุณค่าเพียงตัวเลขผู้ติดตามหรือยอดวิว แต่คุณค่า (Value) และบทบาท (Role) ที่พวกเขาส่งต่อให้สังคมมีมากมายหลากคาแรกเตอร์กว่านั้น Tellscore จึงเลือกแบ่งออกเป็น 7 Archetypes ได้แก่ The Inspirer, The Peace Builder, The Joy Giver, The Ripple Maker, The Storyteller, The Trend Explorer, และ The Beloved Soul ซึ่งทุกตัวทุกบุคลิกถึงแม้ดูเผินๆ แล้วจะมีปีกที่เปราะบาง แต่ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของผีเสื้อที่จะผันตัวเองจากดักแด้ในยามเก็บตัวเพื่อสยายปีกโบยบินในเวลาที่เขาพร้อม เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นส่วนหนึ่งที่จะพาพวกเรารอดจากช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทายจากช่วงนี้ไป
ทุกครีเอเตอร์ต่างมี “ปีก” เป็นของตัวเอง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นครีเอเตอร์เล็กหรือใหญ่ หากสามารถทำให้ผู้ชมได้รับแรงบันดาลใจ รอยยิ้ม ความรู้ หรือแม้แต่คำถามที่จุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเองหรือสังคมได้จริง นั่นคือสิ่งที่ Tellscore อยากยกย่องอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ทุกคนในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีหน้า
คำถามที่ 4: จากธีม “ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก พารอด” – หากให้คุณนิยามคำว่า “ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก” ในมุมมองของคุณ จะอธิบายว่าอย่างไร?
ตอบ:
สำหรับ Tellscore “ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก” หมายถึง ครีเอเตอร์ที่ใช้พลังการเล่าเรื่องและความคิดสร้างสรรค์ของตนเองเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คน เศรษฐกิจ และสังคม
ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเมือง สังคม หรือความขัดแย้งต่างๆ โลกในปัจจุบันเต็มไปด้วยความผันผวนและเปลี่ยนแปลง ครีเอเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แต่เป็นทั้ง แรงบันดาลใจ (Inspiration), ความรู้ (Understanding), และแรงผลักดันทางเศรษฐกิจและสังคม (Social & Economic Drivers) ครีเอเตอร์เหล่านี้ทำให้ผู้คนเห็นโอกาสใหม่ๆ และในทางเดียวกันฝั่งแบรนด์และนักการตลาดต่างๆ ก็ได้วิธีการสื่อสารที่จริงใจ วัดผลทางการตลาดได้ ส่วนสังคมก็ได้รับพลังขับเคลื่อนจากกระบอกเสียงที่หลากหลายมากขึ้น
“ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก” จึงคือผู้ที่ทำให้เราเห็นว่า คอนเทนต์เล็ก ๆ บนหน้าจอสามารถสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในชีวิตจริงได้ และไม่ว่าจะเป็นการสร้างรอยยิ้ม การกระตุ้นให้ตั้งคำถาม หรือการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ครีเอเตอร์คือ Creators of Change ที่ไม่เพียงพาเรา “รอด” แต่ยังพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
คำถามที่ 5: การมองเทรนด์ – อะไรคือสัญญาณที่ทำให้คุณรู้ว่าเทรนด์ไหนกำลังจะมา? และคุณมีวิธีการ “สำรวจ” หรือค้นหาความเคลื่อนไหวเหล่านั้นอย่างไร?
ตอบ:
“สัญญาณของเทรนด์” ไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่ก่อตัวขึ้นทุกวันจาก พฤติกรรมผู้บริโภค ค่านิยมของผู้คนในสังคม เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม ตลอดจนภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ตัวอย่างเทรนด์ AI ที่ผ่านมาจะเห็นว่า AI Creators กำลังเปลี่ยนจากการเป็นเพียงการทดลอง (Virtual Influencers ใน Gen 1.0) มาสู่ยุคที่สามารถโต้ตอบและสร้างคอนเทนต์ได้จริง (Generative AI Influencers ใน Gen 2.0) ที่ผสานเข้ากับ eCommerce และ Entertainment มีแบรนด์ที่เริ่มใช้ AI นำมาขายสินค้าและสร้างคอนเทนต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และกำลังเข้าสู่ Agentic AI Influencer ใน Gen 3.0 ที่จะเริ่มตัดสินใจแทนนักการตลาดแล้ว นี่คือ “สัญญาณ” ของการเปลี่ยนแปลงจาก Creator Economy แบบเดิม ไปสู่ ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ถูกกระตุ้นด้วย AI นั่นเอง แต่การยืนระยะอยู่ได้แค่ไหน ก็ยังคงต้องจับตากันต่อไป”
Tellscore ใช้การสำรวจเทรนด์ทั้ง Signals ต่างๆ ทั้งจาก ฺBehavioral Data & Algorithm Insight เพื่อดูทิศทางที่อัลกอริธึมของโซเชียลมีเดียกำลังหล่อหลอมพฤติกรรมผู้บริโภค และจากแหล่งข้อมูล ข่าว งานวิจัยที่เคยเผยแพร่ไว้ก่อนหน้า และบางส่วนจากแหล่งที่เป็น Creator-based Insight ซึ่งส่วนหลังนี้เป็นการฟังเสียงของครีเอเตอร์ เพราะครีเอเตอร์ส่วนใหญ่คือ Early Adopters ที่มักจะทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสิ่งใหม่ๆ ก่อนใคร
ซึ่งเราได้สะท้อนเทรนด์ทั้งหมดนี้ใน Foresight Research ที่ Tellscore ร่วมมือกับ FutureTales LAB และ สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) ในการทำวิจัยเรื่อง “อนาคตอุตสาหกรรมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในไทย พ.ศ. 2578 (Futures of Content Creators in Thailand 2035)” งานวิจัยนี้ไม่ได้มองแค่เทรนด์สั้นๆ แต่เจาะลึกไปถึงแนวโน้มสำคัญในอีก 10 ปีข้างหน้า ครอบคลุม สังคม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม นโยบาย และค่านิยม เพื่อกำหนดทิศทางการเติบโตและเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง
ดังนั้น สำหรับ Tellscore “การมองหาเทรนด์” จึงไม่ใช่เพียงการคาดเดากระแสระยะสั้น แต่คือการ ผสมผสาน งานวิจัยเชิงอนาคต (Foresight Study) เพื่อให้เราและอุตสาหกรรมครีเอเตอร์ไทยพร้อมปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน
คำถามที่ 6: ความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม – ในยุคปัจจุบัน การสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจระหว่างครีเอเตอร์และผู้ติดตามมีความสำคัญอย่างไร?
ตอบ:
“เดิมเรามองว่า Trust คือหัวใจของความสัมพันธ์ระหว่างครีเอเตอร์กับผู้ติดตาม/ผู้บริโภค แต่ในปัจจุบันความจริงใจเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป ความปลอดภัย ทั้งของแบรนด์และครีเอเตอร์ (Brand Safety & Influencer Safety) ได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล
ปัจจุบันแบรนด์และครีเอเตอร์ต่างเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนตัว การถูกโจรกรรมบัญชีโซเชียลมีเดีย (Social Account Hack) และตัวตน (Identify Theft) การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ (Cyberbullying) การแพร่กระจายของข่าวปลอมและ Deep Fakes รวมถึงการโฆษณาที่เกินจริง (Overclaims) หรือการละเมิดกฎระเบียบการโฆษณาสินค้าบางประเภททั้งที่ตั้งใจ และไม่ตั้งใจ เช่น แอลกอฮอล์ ยาสูบ คริปโทเคอร์เรนซี ตลอดจนอาวุธ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และครีเอเตอร์ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อผู้ติดตามที่เป็นผู้บริโภค
ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจในวันนี้จึงหมายถึงการที่ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์ต้องรักษามาตรฐานด้าน Brand Safety & Influencer Safety ควบคู่ไปกับการสื่อสารอย่างจริงใจ (Trust) และอย่างมีที่มาที่ไป (Authenticity) เมื่อแบรนด์และครีเอเตอร์ปฏิบัติตามกติกาเหล่านี้ ผู้ติดตามจะมั่นใจได้ว่าคอนเทนต์ที่พวกเขาเห็น ไม่เพียงน่าเชื่อถือ แต่ยังปลอดภัยต่อสังคมและเคารพสิทธิส่วนบุคคล
สำหรับ Tellscore เราจึงพยายามเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้าง Ecosystem ที่ไม่เพียงจับคู่แบรนด์กับครีเอเตอร์ แต่ยังสนับสนุนให้ทุกฝ่ายเข้าใจและเคารพกติกา ตั้งแต่ AI Regulations, PDPA, Cyber Crime Regulations, ไปจนถึง Digital Assets Regulations เพราะเมื่อแบรนด์และครีเอเตอร์สามารถรักษาทั้งความจริงใจและความปลอดภัยได้ ความสัมพันธ์กับผู้ติดตามก็จะยั่งยืน เป็นรากฐานของความน่าเชื่อถือ และกลายเป็นคุณค่าร่วมที่ทั้งแบรนด์ ครีเอเตอร์ และผู้บริโภคต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน”
คำถามที่ 7: กลยุทธ์ในการที่จะทำให้ Thailand Influencer Awards by Tellscore ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอินฟลูเอนเซอร์ไทย และไปสู่การยอมรับในระดับประเทศและสากล ได้อย่างไร?
ตอบ:
Thailand Influencer Awards by Tellscore ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นมากกว่างานประกาศรางวัล แต่คือเวทีที่จะร่วมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ไทยให้ไปไกลกว่าการแข่งขันเชิงตัวเลข เรามุ่งเน้นที่จะสร้าง ‘มาตรฐาน’ ของการทำคอนเทนต์ที่ดี มีพลังสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากล ในส่วนของการส่งออกคอนเทนต์ไทยไปต่างประเทศ หรือการช่วยให้ผู้ประกอบการไทยโปรโมตสินค้า/บริการไปต่างประเทศได้นั้น เป็นการทำงานร่วมกันของเครือข่ายในอาเซียนที่ Tellscore เราทำการบุกตลาดเอาไว้ในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ในมาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ จีน เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย และเรายังมีศักยภาพในการเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพในแถบอเมริกา และยุโรปอีกด้วย
กลยุทธ์สำคัญของเรามีอยู่ 3 ด้านค่ะ
หนึ่ง คือ การยกระดับมาตรฐาน (Content Standard) เราให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้ และขับเคลื่อนยอดขายให้ได้ แต่ต้องสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ มีสำนึกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อผู้บริโภคและสังคมไทยโดยรวม
สอง คือ การสร้างคอมมูนิตี้คุณภาพ (Community Building) เวทีนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงแบรนด์ เอเจนซี่ ครีเอเตอร์ แพลตฟอร์ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมอง และขับเคลื่อนวงการไปในทิศทางที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
สาม คือ การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล (Technology & Data-Driven) Tellscore ในฐานะผู้บุกเบิก Influencer Platform แห่งแรกๆ ในไทย ได้นำ AI มาใช้ในการคัดเลือกและวิเคราะห์ผลงานครีเอเตอร์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้การลงคะแนนตัดสินและการมอบรางวัลมีความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ Thailand Influencer Awards by Tellscore ไม่ได้เป็นเพียงการยกย่องครีเอเตอร์ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณให้ทั้งสังคมเห็นว่า อินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์คุณภาพสามารถเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญต่อเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และ Soft Power ของไทยในเวทีโลก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
