รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (23 มี.ค.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (23 มี.ค.2565)
TeaC
23 มีนาคม 2565 ( 19:26 )
343

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ยังคงขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เซเลนสกีเผย คนนับแสนยังติดอยู่ในมารีอูปอล ชี้ความช่วยเหลือถึงยูเครนแล้วกว่าแสนตัน  อ่านต่อ เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (22 มี.ค.2565)


เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (23 มี.ค.2565)

 

เมืองมารีอูโปลเสียหายหนัก หลังไม่ยอมจำนน ตามเส้นตายรัสเซีย

วิกฤตยูเครนเข้าวันที่ 28 ในวันนี้ (23 มีนาคม) สถานการณ์หนักสุดในเมืองมารีอูโปล รัสเซียโจมตีมารีอูโปลระลอกใหม่เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) หลังไม่ยอมยกธงขาวยอมแพ้ ตามที่รัสเซียขีดเส้นตายไว้เมื่อวันจันทร์ (21 มีนาคม) ที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากประเทศตะวันตกระบุว่า ขณะนี้ทหารรัสเซียกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนเสบียงอาหารและเชื้อเพลิงขั้นหนัก และยังเจอปัญหาใหม่ เป็นปัญหาสุขภาพ หลังทหารรัสเซียจำนวนมากถูกหิมะกัดเป็นแผล

 

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) เผยภาพล่าสุดในเมืองมารีอูโปล อาคารโรงงานหลายแห่งเกิดเพลิงไหม้และเสียหายหนัก หลังเขตอุตสาหกรรมในเมืองนี้ ตกเป็นเป้าหมายล่าสุดของรัสเซีย หลังโจมตีอะพาร์ตเมนต์ทั่วเมืองนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ควันไฟลอยปกคลุมทั่วเขตอุตสาหกรรมในมารีอูโปล โรงงานที่เสียหายรวมถึงโรงงานที่สำคัญอย่างโรงหลอมโลหะด้วย

 

ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุล่าสุดว่า ขณะนี้ ไม่มีอะไรเหลือแล้วในเมืองมารีอูโปล จากการถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักไม่หยุด และเขตอุตสาหกรรมในเมืองนี้ เป็นพื้นที่ล่าสุดที่ถูกถล่มด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดและปืนใหญ่ของรัสเซีย จนเกิดระเบิดหลายครั้งเมื่อวานนี้

 

ผู้นำยูเครนระบุด้วยว่า ยังมีประชาชนราว 100,000 คน ยังติดอยู่ในเมืองท่ามารีอูโปล ทางใต้ของยูเครน เนื่องจากรัสเซียยังไม่หยุดโจมตี และปิดล้อมเมืองนี้ไว้ทุกทาง ทำให้ในเมืองไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ และยารักษาโรค

 

เซเลนสกียังกล่าวหาทหารรัสเซียโจมตีขบวนผู้อพยพชาวเมืองมารีอูโปล ขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนกำลังช่วยอพยพ ผ่านเส้นทางฉนวนมนุษยธรรม และเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนที่เข้าช่วยอพยพชาวเมือง รวมไปถึงคนขับรถบัสอพยพชาวเมือง ถูกรัสเซียจับตัวไปด้วย ทำให้เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) เซเลนสกีระบุว่า สามารถอพยพชาวเมืองมารีอูโปลได้เพียง 7,026 คนเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงยึดมารีอูโปลไม่ได้ แม้พยายามโจมตีหนักมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว รัสเซียต้องการยึดเมือง

 

ยุทธศาสตร์สำคัญติดทะเลอาซอฟนี้ เนื่องจากหากยึดได้ จะทำให้รัสเซียเชื่อมต่อพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย ยึดครองอยู่ กับคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนเมื่อ 8 ปีก่อนได้

 

ส่วนสถานการณ์ในเมืองอื่น ๆ ที่เมืองมาคาริฟ ในภูมิภาคเคียฟ โอบลาสท์ ยูเครนเปิดภาพความเสียหายล่าสุดในเมืองนี้เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) อาคารสถานที่ราชการหลายแห่งรวมถึงสถานีตำรวจ ถูกถล่มเสียหาย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

 

ส่วนบริเวณรอบ ๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เกิดการต่อสู้ระหว่างทหารรัสเซียกับยูเครน แต่ต่างฝ่ายต่างยังไม่เพลี่ยงพล้ำ

 

ข้อมูล : TNN World

 

รัสเซียย้ำ จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน 

โฆษกรัฐบาลรัสเซียระบุจุดยืนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ต่อเมื่อเผชิญกับภัยคุกคาม “ที่มีอยู่จริง” เท่านั้น เพนตากอน ระบุ ความเห็นของโฆษกรัฐบาลรัสเซีย เป็นความเห็นที่อันตราย

 

ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ให้สัมภาษณ์พิเศษ CNN เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) ระบุว่า รัสเซียจะตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในบริบทของความขัดแย้งกับยูเครน ก็ต่อเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามความมั่นคง “ที่มีอยู่จริง” เท่านั้น โดยจะเป็นไปตามแนวคิดด้านความมั่นคงของรัสเซีย ที่ได้ระบุเหตุผลทุกอย่างสำหรับการจะดัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์

 

แนวคิดดังกล่าวเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะสามารถหาอ่านได้ และหากเกิดภัยคุกคามที่มีอยู่จริงต่อความมั่นคงของรัสเซีย อาวุธนิวเคลียร์ก็จะถูกนำออกมาใช้ตามแนวคิดดังกล่าว

 

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือ 4 วันหลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้สั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย เตรียมพร้อมขั้นสูง นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความตกใจไปทั่วโลก 
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศที่มีคลังหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก

 

รัสเซียยังเตือนสหรัฐฯ และองค์การนาโตด้วยว่า หากมอบเครื่องบินขับไล่ให้แก่ยูเครน รัสเซียจะถือว่าเป็นการขยายและยกระดับความขัดแย้งในยูเครน และอาจทำให้รัสเซียต้องเผชิญหน้าโดยตรงกับประเทศตะวันตกที่เป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์

 

ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหลังเพสคอฟให้สัมภาษณ์ดังกล่าวว่า ความเห็นของโฆษกรัฐบาลรัสเซียเกี่ยวกับจุดยืนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าวนั้น เป็นความเห็นที่อันตราย และไม่ใช่วิสัยที่มหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีความรับผิดชอบ ควรให้ความเห็นเช่นนั้น

 

อย่างไรก็ตาม เคอร์บีย้ำว่า สหรัฐฯ ยังไม่เห็นเหตุผลความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ จับตาความเคลื่อนไหวของรัสเซียในเรื่องนี้อยู่ตลอด

 

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมในหลายประเทศตะวันตก เคยระบุหลังประธานาธิบดีปูตินสั่งเตรียมพร้อมกองกำลังนิวเคลียร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ยังไม่เห็นสัญญาณการเคลื่อนไหวที่สำคัญใด ๆ ของกองกำลังนิวเคลียร์รัสเซียหลังคำสั่งของปูตินดังกล่าว ที่รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธ และเรือดำน้ำที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้

 

เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ยังกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า รัสเซียไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยึดครองประเทศยูเครนแต่อย่างใด เป้าหมายของรัสเซียคือ ทำลายศักยภาพทางทหารของยูเครน และยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้ใช้กำลังโจมตีพลเรือนยูเครน แต่โจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารในดินแดนยูเครน

 

ข้อมูล : TNN World

 

กองทัพยูเครนสู้ไม่ถอย ตอบโต้กองทัพรัสเซีย

กองทัพยูเครนสู้ไม่ถอย ตอบโต้กองทัพรัสเซียอย่างหนักในพื้นที่ชานกรุงเคียฟ จนสามารถยึดคืนพื้นที่จากทหารรัสเซียกลับมาได้ หลังทั้งสองฝ่ายยิงโจมตีกันอย่างรุนแรง ส่วนในเมืองมารีอูโปล มีประชาชนกว่า 100,000 คนต้องการอพยพออกจากเมือง ขณะที่ เลขาธิการ UN เรียกร้องให้เร่งเจรจายุติความขัดแย้ง


ยูเครนแถลงว่า สามารถยึดคืนพื้นที่ชานเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ของกรุงเคียฟ คืนจากกองทัพรัสเซียได้ในวันอังคาร (22 มีนาคม) ขณะที่กองทัพยูเครนต่อสู้กับรัสเซียที่พยายามจะเข้ายึดเมืองมารีอูโปล ทางตอนใต้ของประเทศ ที่ถูกปิดล้อมมานานหลายสัปดาห์


มีเสียงระเบิดและเสียงปืนในกรุงเคียฟ และได้ยินเสียงปืนใหญ่จากทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งกองทัพรัสเซียต้องการปิดล้อมและยึดชานเมืองกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ 


โดยกระทรวงกลาโหมยูเครน แถลงว่า ในช่วงเช้าวันอังคาร (22 มีนาคม) ​ตามเวลาท้องถิ่น ทหารยูเครนได้ผลักดันทหารรัสเซียออกจากเขตมาการิฟ พื้นที่ชานเมืองของกรุงเคียฟ หลังยิงต่อสู้กันอย่างหนัก และยึดคืนพื้นที่ ซึ่งรวมทั้งถนนหลวงสายสำคัญสายหนึ่ง และขัดขวางทหารรัสเซียไม่ให้ปิดล้อมกรุงเคียฟจากทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วย


อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียยังควบคุมพื้นที่บางส่วนในเขตชานเมืองอื่น ๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทั้งในเขตบูชา, ฮอสโตเมล และเออร์ปิน ซึ่งบางแห่งถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มบุกเมื่อเกือบหนึ่งเดือนก่อน จนทำให้ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคน ทิ้งบ้านเรือนหลบหนี เท่ากับเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรยูเครน จากตัวเลขของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น 


รายงานข่าวระบุว่า เชื่อว่า มีพลเรือนหลายพันคนเสียชีวิต แม้ว่าตัวเลขจริงยังไม่มีความชัดเจน รัสเซียสูญเสียทหารจำนวนมาก โดยกระทรวงกลาโหมยูเครน บอกว่า รัสเซียเสียทหารไปแล้วมากกว่า 15,000 นาย 


ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน เรียกร้องให้กำหนดเส้นทางช่วยหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ มีพลเรือน 100,000 คนต้องออกอพยพออกจากเมือง 


พลเรือนที่หลบหนีออกจากเมืองมารีอูโปล กล่าวว่า เมืองนี้ถูกโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง อาคารที่พักหลายหลังถูกทำลาย และมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่ตามท้องถนน แต่การโจมตีภาคพื้นดินของรัสเซียในส่วนอื่น ๆ ของประเทศ รุกคืบอย่างช้า ๆ หรือไม่มีความคืบหน้าเลย เนื่องจากถูกตอบโต้จากยูเครนด้วยการโจมตีแบบ “หนีหัวเข้าบ้าน”


ด้านเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ย้ำว่าวิกฤตในยูเครนเป็นสงครามที่ ‘ไม่มีทางชนะ’ และถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องเปิดการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง


เลขาฯ สหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (22 มีนาคม) ​ถึงวิกฤตในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 1 เดือนเต็มว่า จากการหารือกับหลายฝ่ายพบว่า ขณะนี้มีทุกอย่างที่เพียงพอต่อการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างกัน และการหารืออย่างจริงจังควรเกิดขึ้นได้แล้วในตอนนี้


เลขาฯ ยูเอ็น ย้ำว่า “สงครามครั้งนี้ไม่สามารถชนะได้” และ “ไม่ช้าก็เร็วสถานการณ์นี้จะต้องเปลี่ยนไปจากสนามรบมาเป็นโต๊ะเจรจาสันติภาพ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”


แม้ว่า กูเตอร์เรส จะไม่ได้ลงรายละเอียดถึงการหารือรวมถึงฝ่ายที่จะเป็นตัวกลางการเจรจาเพิ่มเติม แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ส่งสัญญาณยกเลิกแผนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ขณะที่ตุรกีและอิสราเอล เป็นหนึ่งในประเทศที่จะเป็นตัวกลางการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วยเช่นกัน

 

ข้อมูล : TNN World

ภาพ : Reuters

 

เซเลนสกีเผย คนนับแสนยังติดอยู่ในมารีอูปอล ชี้ความช่วยเหลือถึงยูเครนแล้วกว่าแสนตัน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุผ่านเฟซบุ๊กของเขาว่า ยังคงมีผู้คนกว่าแสนที่ติดอยู่ในเมืองมารีอูปอล ที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

 

“ณ วันนี้ มีผู้คนที่ยังอยู่ในเมืองประมาณ 100,000 คน พวกเขาอยู่ในสภาพที่ไร้มนุษยธรรม ถูกปิดล้อมอย่างสมบูรณ์ ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มียารักษาโรค ตกอยู่ภายใต้การยิงถล่มด้วยกระสุน และภายใต้การทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง”เซเลนสกีกล่าว

 

เซเลนสกี กล่าวว่า คความพยายามที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในมารีอูปอลผ่านช่องทางด้านมนุษยธรรมก็ถูกขัดขวางจากการยิงกระสุนและการก่อการร้ายโดยเจตนาของรัสเซีย ด้านเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลยูเครนรวมถึงคนขับรถของพวกเขาถูกจับเข้าคุก แต่ท่ามกลางความยากลำบากเหล่านี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็สามารถช่วยคนออกมาจากมารีอูปอลได้ 7,026 คน

 

เซเลนสกีกล่าวด้วยว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนได้รับความช่วยเหลือด้านมนุยธรรมแล้วกว่า 100,000 ตัน และชาติตะวันตกจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดใหม่ในสัปดาห์นี้ เมื่อผู้นำได้เข้าร่วมประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

 

ข้อมูล : มติชน

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง