รีเซต

สรุปข่าวลือ iPhone 12 ที่คุณควรรู้ ก่อนการเปิดตัว เที่ยงคืน 14 ตุลาคมนี้

สรุปข่าวลือ iPhone 12 ที่คุณควรรู้ ก่อนการเปิดตัว เที่ยงคืน 14 ตุลาคมนี้
TNN ช่อง16
13 ตุลาคม 2563 ( 21:09 )
434

ก่อนการเปิดตัว iPhone 12 เที่ยงคืน 14 ตุลาคมนี้ เรามาดูสรุปข่าวลือสเปกต่างๆ ของสมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอย พร้อมราคาคาดการณ์ ชอบรุ่นไหนเตรียมเก็บเงินไว้ให้พร้อมได้เลย

การออกแบบ

ข่าวลือจากเว็บไซต์ต่างประเทศหลายสำนักเผยว่า iPhone12 จะมีตัวเครื่องเหลี่ยมคล้าย iPad Pro ความหนาเพียง7.4 มิลลิเมตร เน้นสั่งการด้วยการสัมผัสบนหน้าจอ จึงไร้ปุ่ม Home และแน่นอนว่าอาจจะไม่มี Touch ID มาให้ด้วย


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า Appleจะยังคงเก็บ “รอยแหว่ง” หรือ Notch ด้านบนจอแสดงผลไว้สำหรับการวางตำแหน่งกล้องหน้าแต่จะมีขอบจอที่บางลงกว่าเดิม จากภาพม็อกอัปที่หลุดออกมาเผยให้เห็นขอบจอที่บางลงถึง40% ใน iPhone 12 Pro Max

ส่วนสีสันของตัวเครื่อง จะแบ่งตัวชนิดของโมเดลสำหรับโมเดลที่ลงท้ายด้วย Pro จะเน้นความพรีเมียมของวัสดุจึงใช้สีทอง, เงิน, แกรไฟต์ และน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีใหม่ที่มาแทนสีเขียว MidnightGreen แต่ในรุ่น non-Pro นั้น จะเน้นสีสันสวยงามจึงคาดว่าจะมีสีดำ, ขาว, แดง, ฟ้า และสีเขียว จะเห็นได้ว่ามีการตัดสีส้มและสีเหลืองออกจากปัญหาที่มีหลายคนบ่นว่าสองสีนี้ “ไม่ตรงปก”


จอแสดงผล

iPhone 12 จะมีอยู่ด้วยกัน 4 โมเดล แตกต่างกันไปตามขนาดของจอแสดงผล ได้แก่

- iPhone12 Mini ขนาดจอแสดงผล 5.4 นิ้ว พาเนล SuperRetina HD (ความละเอียด 720p)

- iPhone12 - ขนาดจอแสดงผล 6.1 นิ้ว พาเนล SuperRetina HD (ความละเอียด 720p)

- iPhone12 Pro - ขนาดจอแสดงผล 6.1 นิ้ว พาเนล SuperRetina XDR (ความละเอียด 1080p)

- iPhone12 Pro Max ขนาดจอแสดงผล 6.7 นิ้ว พาเนล SuperRetina XDR (ความละเอียด 1080p)


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

ส่วนสิ่งที่หลายคนรอคอย คือจอแสดงผลที่มีค่า Refreshrate สูงกว่า 60 HZ (90-120 Hz) รวมถึงเทคโนโลยีProMotion เช่นเดียวกับ iPad Pro เพื่อการแสดงผลที่ราบลื่นสำหรับการชมวิดีโอหรือการเล่นเกมแต่หลายแหล่งข่าวเชื่อว่า Apple อาจจะยังใช้จอ 60 Hz เหมือนเดิม เนื่องด้วยข้อจำกัดของแบตเตอรี่  


ความเร็ว, ความจุพื้นที่จัดเก็บข้อมูล, แบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริม

สำหรับเรื่องชิปประมวลผลที่ใช้ใน iPhone12 ทุกรุ่นนั้น สามารถคาดเดาได้ง่ายมาก นั่นคือชิป Apple A14Bionic ซึ่งใช้โหนดการผลิตขนาด 5nm ทำให้มีความเร็วและประหยัดไฟยิ่งขึ้นให้พลังการประมวลผลสูงกว่าเดิม 40%, ประมวลผลกราฟิกสูงขึ้นกว่าเดิม30% และประสิทธิภาพด้าน AI ดีขึ้นกว่าเดิมถึง2 เท่า (เมื่อเทียบกับชิป A12)


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

ความจุหรือพื้นที่สำหรับการติดตั้งแอปพลิเคชันนั้นคาดว่า Appleจะจัดมาให้อย่างน้อย 128 GB ในโมเดล Proพร้อมแรม 6GB ส่วนโมเดล non-Pro จะมีความจุเริ่มต้น 64GB พร้อมแรม 4GB

ขนาดของแบตเตอรี่นั้น โดยปกติแล้ว iPhoneทุกรุ่นจะไม่บอกความจุแบตเตอรี่มาให้ (นำเสนอแค่ว่าใช้ได้นานกี่ชั่วโมง)เป็นเพียงการคาดการณ์จากขนาดแบตเตอรี่จากนักรีวิวเท่านั้น สำหรับใน iPhone12 นั้น คาดว่าจะมีขนาดไม่แตกต่างไปจาก iPhone 11 แต่อาจจะมีระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้น จากประสิทธิภาพของชิป A14


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

ทางด้านอุปกรณ์เสริมนั้น จากที่หลายคนคาดการณ์ไว้คือจะไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่และหูฟังมาให้ในกล่อง แต่ใส่แค่สายเคเบิลชาร์จแบตมาให้เพียงอย่างเดียวและสิ่งที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่คือ iPhone 12 จะได้ใช้พอร์ตUSB-C หรือยังคงอยู่กับพอร์ต Lightning แบบเดิม (แล้วแถมสายแปลง Lightning to USB-C มาให้)


กล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความแตกต่างระหว่างโมเดลProและ non-Pro โดยโมเดล Pro จะประกอบด้วยกล้องทั้งหมด 3 ตัว (เลนส์ธรรมดา, เลนส์Ultra-wide และเลนส์ Telephoto) ยังไม่ทราบขนาดความละเอียด(คาดว่าไม่แตกต่างไปจากของ iPhone 11)


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาจาก iPhone11 คือเซนเซอร์ LiDAR ขนาด 12MP เพื่อใช้ในการวัดระยะความลึกอย่างแม่นยำ อาจปรับไปใช้กับการถ่ายภาพ Portraitรวมถึงใช้ร่วมกับแอป Augmented Reality (AR) อีกด้วย

ส่วนโมเดล non-Pro ได้แก่ iPhone12 Mini และ iPhone 12 จะมีกล้องหลัง 2ตัว (เลนส์ธรรมดา และเลนส์ Ultra-wide) ไม่มีเซนเซอร์ LiDARและกล้องหน้าของในทุกรุ่นจะมีอยู่ 1 ตัว ความละเอียด 12MP 


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเรื่องประสิทธิภาพของเลนส์Telephotoที่สามารถซูมได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 25-30 เท่าซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่


การรองรับ 5G

เทคโนโลยีเครือข่าย 5G กำลังมาแรงในขณะนี้ ซึ่งหลายค่ายมือถือเริ่มมีทำสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5Gกับออกมาหมดแล้ว Apple จึงไม่น่าพลาดที่จะนำมาใส่ไว้ในiPhone 12 ด้วย


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

สำหรับการรองรับ 5G นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือช่วงคลื่นแบบ Sub-6GHz ที่มีความเร็วสูงกว่าสัญญาณ 4G ราว 2 เท่า และนิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่ อีกรูปแบบหนึ่งคือ mmWave ซึ่งเร็วกว่าแบบ Sub-6GHz เสียอีก เพียงแต่ยังมีสัญญาณให้ใช้งานได้จำกัด

 iPhone 12 ทุกโมเดลจะรองรับเทคโนโลยี 5G แต่สำหรับโมเดล non-Proจะใช้งานได้เพียงช่วงคลื่น Sub-6GHz ส่วนโมเดลPro จะใช้งานได้ทั้ง Sub-6GHz และ mmWave


ราคาและวันวางจำหน่าย

ประเด็นเรื่องราคาของ iPhone12 นั้น มีอยู่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะมีรคาแพงขึ้นหรือถูกลงกว่าเดิม แต่จากแหล่งอ้างอิงเชื่อว่าแต่ละโมเดลจะมีราคาดังนี้

- iPhone 12 Mini ราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,000 บาท

- iPhone 12 ราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 25,000 บาท

- iPhone 12 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ หรือประมาณ 31,200 บาท

- iPhone 12 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 1,099ดอลลาร์ หรือประมาณ 35,000 บาท

ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายของ iPhoneจะแตกต่างกันออกไป โดยคาดว่าหลังการเปิดตัวในค่ำคืนนี้จะมีการวางจำหน่าย iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ตามมา ส่วน iPhone 12 Mini และ iPhone 12 ProMax จะทิ้งช่วงออกไปจนกว่าจะถึงเดือนพฤศจิกายนนี้


ที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/roundup/iphone-12/

และนี่คือสรุปข่าวลือก่อนการเปิดตัวของ iPhone12 แล้วอย่าลืมติดตามสรุปข่าวหลังการเปิดตัวว่าสเปกที่ได้นั้นจะเป็นไปตามข่าวลือและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เผื่อใครวางแผนจะซื้อมือถือเครื่องใหม่จะได้รีบเตรียมเงินกันไว้ก่อนนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mac World , CNET

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง