รีเซต

หญิงออสซี่กว่า 40% ลังเลมีลูก! กลัวอนาคตโลกร้อนเกินจะเลี้ยงดูได้

หญิงออสซี่กว่า 40% ลังเลมีลูก! กลัวอนาคตโลกร้อนเกินจะเลี้ยงดูได้
TNN ช่อง16
10 พฤศจิกายน 2568 ( 12:00 )
10

เมื่อโลกร้อนขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแต่สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่ยังส่งผลลึกถึง “การตัดสินใจของคนรุ่นใหม่” ในการสร้างครอบครัว ล่าสุด ผลสำรวจในออสเตรเลียเผยว่า “ผู้หญิงออสเตรเลียกว่า 40% ที่ยังไม่มีบุตร รู้สึกลังเลที่จะมีลูก เพราะกังวลถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”   สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลต่ออนาคตของโลกที่เริ่มส่งผลต่อโครงสร้างประชากรของประเทศ

การสำรวจโดยศาสตราจารย์ไคลฟ์ แฮมิลตัน (Clive Hamilton) แห่งมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ สเตอร์ท ร่วมกับสถาบันวิจัยรอย มอร์แกน (Roy Morgan Research) ได้สอบถามประชาชนออสเตรเลียจำนวน 2,000 คน ถึงทัศนคติต่อภาวะโลกร้อนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผลการสำรวจพบว่า ครึ่งหนึ่งของชาวออสเตรเลียกังวลอย่างมากหรือกังวลอย่างยิ่ง ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่สองในห้าของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ภูมิอากาศในปี 2050 จะ “ร้อนกว่าปัจจุบันมาก” สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อแยกตามกลุ่มการเมือง พบว่าผู้สนับสนุนพรรคแรงงาน (Labor) พรรคกรีน (Greens) และกลุ่มอิสระ มีแนวโน้มแสดงความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศมากกว่าผู้สนับสนุนพรรคอนุรักษนิยมถึงสามเท่า และระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์กับระดับความกังวลต่อสภาพอากาศมากกว่าอายุ

 


ในกลุ่มผู้ปกครอง แรงงานกว่า 60% แสดงความห่วงใยต่ออนาคตของบุตรหลานในโลกที่ร้อนขึ้น ในขณะที่ผู้มีแนวคิดอนุรักษนิยมมีเพียง 20% เท่านั้นที่รู้สึกแบบเดียวกัน

แฮมิลตันอธิบายว่า ผู้หญิงมักจะมีความคาดหวังว่าโลกจะร้อนขึ้น รู้สึกไม่มั่นคงและวิตกกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศมากกว่าผู้ชาย ซึ่งอาจสะท้อนถึง “คุณค่าด้านความห่วงใย” ที่ทำให้ผู้หญิงเปิดรับคำเตือนจากวิทยาศาสตร์ได้มากกว่า

ในกลุ่มผู้ที่ยังไม่มีบุตร พบว่า 40.4% ของผู้หญิง “รู้สึกลังเลในระดับปานกลางถึงมาก” ที่จะมีลูกเพราะสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ผู้ชายเพียง 17% รู้สึกเช่นนั้น ซึ่งแฮมิลตันเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็น “การคำนวณความเสี่ยงเชิงเพศสภาพ” (gendered calculus of risk) เขาเตือนว่า ความลังเลของผู้หญิงในการมีลูกอาจนำไปสู่ “อัตราการเกิดที่ลดลงของออสเตรเลีย” และชี้ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่าง “บทสนทนาของคนรุ่นใหม่” กับ “นโยบายของรัฐบาล” ที่ยังไม่ตอบโจทย์ต่อความกลัวและความกังวลนี้

ผลการสำรวจนี้สอดคล้องกับการสำรวจของมูลนิธิอนุรักษ์ธรรมชาติออสเตรเลีย (Australian Conservation Foundation) เมื่อปี 2019 ซึ่งพบว่า หญิงสาวอายุต่ำกว่า 30 ปีถึงหนึ่งในสาม เคยพิจารณาไม่อยากมีบุตรเพราะกลัวอนาคตที่ไม่ปลอดภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่าการใช้ชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหรือไฟป่า ไม่ได้เพิ่มระดับความกังวลต่อปัญหาโลกร้อนอย่างมีนัยสำคัญ 

ศาสตราจารย์เอียน วอล์กเกอร์ (Iain Walker) นักจิตวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เสริมว่า การวิจัยระดับนานาชาติชี้ไปในทิศทางเดียวกัน การเผชิญเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ไม่ได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้คนมากนัก เพราะการตีความเหตุการณ์ขึ้นอยู่กับมุมมองเดิมของแต่ละคน ผู้ที่เชื่อในภาวะโลกร้อนจะเห็นว่านั่นคือหลักฐานเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ที่ปฏิเสธจะมองว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติ

งานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นว่าความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเพียง “เรื่องสิ่งแวดล้อม” อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น “ปัจจัยทางสังคมและจิตวิทยา” ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัวในอนาคตของออสเตรเลีย และอาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้รัฐบาลทั่วโลกตระหนักว่า วิกฤตภูมิอากาศไม่ได้กระทบเพียงอุณหภูมิของโลก แต่ยังสะเทือนถึง “การตัดสินใจของคนรุ่นต่อไป” ในการมีชีวิตและสร้างอนาคตร่วมกันบนโลกใบนี้

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง