"แพทองธาร' ปักธงสารคาม เชื่อมโยง 'มรดกพ่อ' สู่ 'วิสัยทัศน์ลูก'
ภาพที่คุ้นตาของผู้นำประเทศในชุดผ้าไหมพื้นถิ่นกำลังก้าวลงจากรถ ณ ประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี นำโดยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการสำคัญและร่วมงานวัฒนธรรมของจังหวัด
"สายน้ำแห่งความหวัง" ต่อยอดมรดกจากพ่อสู่ลูก
จุดเริ่มต้นของการลงพื้นที่อยู่ที่ประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม โครงการที่มีความหมายพิเศษเพราะย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ทักษิณ ชินวัตร บิดาของนายกฯ เคยอนุมัติงบประมาณก่อสร้างที่นี่ วันนี้ลูกสาวได้กลับมาอนุมัติงบซ่อมแซมเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งให้ชาวบ้าน โครงการนี้คืบหน้าแล้วกว่า 50% และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2568
"วันนี้มาตรงประตูน้ำจุดนี้ สมัยคุณพ่ออนุมัติงบประมาณมาสร้างประตูน้ำแห่งนี้ วันนี้ผ่านมา 20 ปี มาถึงลูกสาวได้อนุมัติงบมาซ่อมแซมพอดี" นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมย้ำว่าโครงการจะเสร็จทันในปีหน้าอย่างแน่นอน
บรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงให้กำลังใจจากชาวบ้านที่มารอต้อนรับ "นายกสู้ๆ ขอบคุณที่มาดูแลคนอีสาน" เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับการปรบมือ หลายคนขอถ่ายรูปกับนายกฯ อย่างเป็นกันเอง นายกฯ แพทองธารยังได้ลงมือหว่านข้าวพันธุ์ กข 89 ในแปลงนาปรังด้วยตนเอง สร้างความประทับใจให้กับชาวบ้านที่มาร่วมงาน
"นโยบายที่จับต้องได้" สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ระหว่างพูดคุยกับชาวบ้านด้วยสำเนียงอีสาน นายกฯ ได้อธิบายถึงนโยบายช่วยเหลือต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งเงินช่วยเหลือเกษตรกร 1,000 บาทต่อไร่ เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท และเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่จะได้รับก่อนตรุษจีน โดยจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงเป็นจำนวน 3 รอบ
"การศึกษาคือรากฐานการพัฒนา" ODOS สู่การเปิดโลกทัศน์
ช่วงบ่าย บรรยากาศที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามคึกคักไม่แพ้กัน เมื่อนายกฯ เดินทางมาประกาศความชัดเจนของโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" (ODOS) ที่จะกระจายโอกาสทางการศึกษาไปทั่วประเทศ ครอบคลุม 878 อำเภอและ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร
"เราไม่ได้ให้แค่ทุนเรียนในประเทศ แต่เป็นทุนที่ให้ไปเรียนต่างประเทศ โดยเฉพาะเด็กที่เรียนปานกลาง จะได้มีโอกาสไปเรียน Summer Camp ช่วงปิดเทอมใหญ่ ได้ไปเรียนรู้ชีวิต รู้วัฒนธรรมต่างๆ เปิดโอกาสในการใช้ชีวิต" นายกฯ อธิบายถึงวิสัยทัศน์ของโครงการ พร้อมกับความหวังว่าผู้ที่ได้ทุนจะนำประสบการณ์มาแบ่งปันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นต่อไป
"วัฒนธรรมคือพลังอ่อน" สู่การพัฒนาเศรษฐกิจ
ปิดท้ายวันด้วยการเป็นประธานเปิดงาน "ออนซอนกลองยาวชาววาปี" ที่อำเภอวาปีปทุม โดยนายกฯ แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมลายฉลองมหาสารคาม 160 ปี ที่ทางจังหวัดจัดเตรียมให้ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของ "ซอฟต์พาวเวอร์" ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น
"กลองยาวเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและจะเป็นไฮไลต์ที่จะชูของดีของเมืองมหาสารคาม" นายกฯ กล่าว พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้ปี 2568 เป็นปีที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกเดือนโดยไม่มีโลว์ซีซั่น
"SML สู่การพัฒนาชุมชน" จากรากหญ้าสู่ความยั่งยืน
ระหว่างเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ ทั้งผ้าทอมหาสารคาม 14 ลาย ผลิตภัณฑ์จากสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน และผลิตภัณฑ์จากโครงการจักรวาลข้าวไทยเพื่อเกษตรกรรมยั่งยืน นายกฯ ได้ยืนยันถึงโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ที่จะเกิดขึ้นจริงในปี 2568
"วันนี้ที่มาพูดให้ฟังไม่ได้หาเสียง แต่มาพูดเรื่องจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า" นายกฯ ย้ำถึงความสำคัญของการให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง เพราะคนในชุมชนเข้าใจปัญหาในท้องถิ่นได้ดีที่สุด
การลงพื้นที่ครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีแพทองธารสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการบูรณาการการพัฒนาอย่างรอบด้าน ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาการศึกษาผ่านโครงการ ODOS การส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ไปจนถึงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการ SML โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ก่อนจากลา นายกฯ ได้อวยพรปีใหม่ให้ชาวมหาสารคามด้วยรอยยิ้ม "ขออวยพรในวันขึ้นปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย ได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก แน่นอนว่าคิดเงินขอให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง จะรวยต้องได้รวย"
ภาพ รัฐบาลไทย