“ฮอนด้า” กำไรดำเนินงานไตรมาส 4 วูบ

“ฮอนด้า” บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 4 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม อยู่ที่ 7.35 หมื่นล้านเยน ลดลงร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับที่ LSEG ประเมินไว้ที่ 2.755 แสนล้านเยน เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ
สำหรับผลประกอบการทั้งปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 21.69 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 21.63 ล้านล้านเยน
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานตลอดปีอยู่ที่ 1.21 ล้านล้านเยน ลดลงร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 1.41 ล้านล้านเยน
ผลงานของ “ฮอนด้า” เผชิญกับความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 สำหรับรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ
เมื่อเดือนมีนาคม มีรายงานว่า “ฮอนด้า” ตัดสินใจที่จะผลิตรถรุ่นขายดี “ซีวิค” (Civic) ไฮบริดเจเนอเรชั่นถัดไปในรัฐอินเดียนาของสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นเม็กซิโก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีศุลกากร
จากข้อมูลของ “คาร์โปร” (Carpro) ระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์จากเอเชียครอง 6 ใน 8 อันดับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อวัดตามจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี 2567 ซึ่ง “ฮอนด้า” อยู่ในอันดับ 4
นอกจากนี้ “ฮอนด้า” ยังได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการเกือบทุกตัวสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี 2569 เมื่อเทียบกับผลประกอบการปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในปีปัจจุบันจะลดลงเกือบร้อยละ 59 เหลือ 5 แสนล้านเยน เทียบกับ 1.2 ล้านล้านเยนในปีที่เพิ่งสิ้นสุด