รีเซต

NDRผลิตรถเพิ่มเท่าตัว รับเดลิเวอรีโต-Q3ฟื้นชัด

NDRผลิตรถเพิ่มเท่าตัว รับเดลิเวอรีโต-Q3ฟื้นชัด
ทันหุ้น
30 มิถุนายน 2564 ( 09:00 )
53
NDRผลิตรถเพิ่มเท่าตัว รับเดลิเวอรีโต-Q3ฟื้นชัด

 

ทันหุ้น – NDR เร่งผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 2 พันคันจากเดิม 1 พันคัน เผยอยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่ง คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ พร้อมโดดรับอานิสงส์ธุรกิจเดลิเวอรีโตดี หนุนดีมานด์ใช้ยางรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งซิกไตรมาส 3/64 ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวชัด

 

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า บริษัทคาดดีมานด์ความต้องการใช้รถจักรยานยนต์จะเติบโตสูงขึ้น ตามการส่งอาหารเดลิเวอรี ซึ่งสถานการณ์และความต้องการใช้ยางรถจักรยานยนต์เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้า และส่งผลดีต่อธุรกิจของ NDR มาสักพักแล้ว

 

เร่งผลิตรถไฟฟ้า

 

ขณะเดียวกันบริษัทได้เดินหน้าประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายคือการจดทะเบียนกับกรมขนส่ง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานประมาณ 2 สัปดาห์ โดย บริษัทมีแผนจะส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนราว 300-400 คัน จากเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมคาดจะส่งมอบได้ 150-200 คัน ทั้งนี้บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าป็น 1.5-2 พันคัน จากเดิมตั้งเป้าจะผลิต 1 พันคันในปีนี้

 

“จริงๆ ภาพการรับส่งอาหารเดลิเวอรี ส่งผลดีกับดีมานด์ยางรถจักรยานยนต์มาสักพักแล้ว แต่เมื่อรัฐประกาศงดนั่งรับประทานอาหารในร้าน เราจึงมองว่าเดลิเวอรีน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากที่ผ่านมา และทำให้ดีมานด์ยางรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งเราจะเร่งประกอบรถจักยานยนต์ไฟฟ้าให้กับไรเดอร์ หรือผู้ขับรถส่งอหารดิลิเวอรี่ เพราะหลายคนต้องการลดต้นทุน โดยหันมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น” นายชัยสิทธิ์ กล่าว

 

ผลงานครึ่งปีแรก

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกปี 2564 จะใกล้เคียงช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากเดือนมิถุนายน ประเทศมาเลเซียล็อกดาวน์หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ทำให้ยอดขายในมาเลเซียลดลง ส่งผลโดยตรงต่อผลประกอบการไตรมาส 2/64 ที่จากเดิมบริษัทตั้งเป้ายอดขายใกล้เคียงกับไตรมาส 1/64 แต่ดูยอดขายจากเดือนมิถุนายนแล้ว บริษัทคาดยอดขายจะสู้ไตรมาส 1/2564 ไม่ได้ แต่อาจจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน

 

แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดทิศทางธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 3/2564 เนื่องจากช่วงที่มาเลเซียล็อกดาวน์โรงงานผลิตยางรถจักรยานยนต์ทุกโรงงานหยุดการผลิต ส่งผลให้ซัพพลายลดลง แต่หากมาเลเซียปลดล็อกดาวน์แล้ว คาดดีมานด์หรือความต้องการใช้ยางรถจักรยานยนต์จะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3/2564 จะกลับมาฟื้นตัวชัดเจน

 

นายชัยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมยอดขายปี 2564 บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% จากปีก่อน 778.87 ล้านบาท โดย 3 เดือนแรก บริษัทมียอดขายแล้วที่ 200.91 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวยังไม่รวมกับยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีทราน ทั้งนี้การเติบโตจะยังมาจากยอดขายต่างประเทศประมาณ 60%และในประเทศ 40% ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามรักษาฐานมาร์จิ้นให้ใกล้เคียงปีก่อน เพราะทิศทางต้นทุนวัตถุดิบปีนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และอาจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าของบริษัท

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง