รีวิวเกม Taiko no Tatsujin Rhythm Festival ตีกลองที่สนุกดีแต่ไม่มีอะไรใหม่
สำหรับแฟนชาวไทยแล้วซีรีส์ตีกลอง Taiko no Tatsujin น่าจะพอเป็นที่รู้จักบ้าง เพราะมันเป็นหนึ่งในเกมตู้ยอดฮิตที่อยู่ตามห้าง และมันเป็นความโดดเด่นเพราะจะมาพร้อมกลองญี่ปุ่นขนาดใหญ่มาให้เราตีแบบสมจริง และมีการสร้างออกมานับ 10 ภาครวมทั้งออกบนคอนโซลแทบทุกเครื่อง
และล่าสุดตำนานตีกลองกลับมาอีกครั้งในชื่อ Taiko no Tatsujin Rhythm Festival ที่จะออกเฉพาะบน Nintendo Switch เท่านั้น และนับเป็นภาคที่ 2 บนคอนโซลลูกผสม เพราะก่อนหน้านี้มีการวางขายภาค Taiko no Tatsujin: Drum ‘n’ Fun! มาแล้ว ทำให้ภาคนี้อาจจะไม่ได้สร้างความประหลาดใจนัก เพราะซีรีส์นี้เป็นขาประจำของปู่นินอยู่แล้ว
เรื่องราวในภาค Rhythm Festival เกิดขึ้นในดินแดน Omik ที่ตัวเอกจะต้องทำภารกิจเพื่อที่จะได้เป็นสุดยอด Taiko Master และตัวละครหลักจะเป็น Don-Chan และ Kumo-kyun อยู่แต่เรื่องราวในเกมจะไม่มีอะไรมากมายเน้นการเล่าเรื่องผ่านภาพนิ่งของตัวละครที่เหมือนตัวการ์ตูนกระดาษตัดแปะเชื่อว่าแฟนเกมน่าจะกดข้ามมากกว่า เพราะเกมเน้นสนุกไปกับเสียงเพลงมากกว่าเสพเนื้อเรื่อง
กราฟิกน่ารักแบบการ์ตูน
ภาพใน Taiko no Tatsujin Rhythm Festival ก็ยังคงเป็นการ์ตูน 2 มิติที่แบนเรียบเหมือนกระดาษ ที่ใช้มาตั้งแต่ภาคแรกไม่เปลี่ยน แม้ว่ามันจะมาพร้อมความละเอียดระดับ HD ก็ไม่ได้ช่วยให้มันดูดีนัก แต่เชื่อเถอะว่าคนที่เล่นซีรีส์นี้มาไม่ได้สนใจกราฟิกอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้มันอัปเกรดบ้างเพราะหากมันกลายเป็น 3 มิติทั้งภาพและตัวละครมันคงจะสร้างมิติใหม่ในการเล่นแน่
แน่นอนว่าเกมดนตรีเพลงก็คือหัวใจหลักของเกม ที่ในภาคนี้มีมาให้เลือกเล่นทั้งหมด 76 เพลง ที่แบ่งเป็นหมวดหมู่มาให้ชัดเจน ที่มีทั้งเพลงจากการ์ตูนดังที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง โดราเอม่อน, ดราก้อนบอล, ดาบพิฆาตอสูร และเพลงจากเกมที่มีจาก Nintendo ทั้ง Zelda และ Mario หรือ Kirby แต่เพลงปรกติที่ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงญี่ปุ่นซึ่งหากคุณไม่ได้ติดตามก็อาจจะรู้สึกเฉย ๆ แต่อย่างต้องก็มีเพลง Black Pink มาให้ 1 เพลงที่คนไทยต้องรู้จักแน่ ๆ โดยรวมถือว่ามีมาให้พอประมาณไม่มากไม่น้อยเกินไป
รูปแบบการเล่นสนุกรวดเร็ว
เกมเพลย์ก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพราะถ้าเปลี่ยนคงจะไม่ใช่ซีรีส์ตีกลอง ที่ผู้เล่นจะต้องตีให้ตรงจังหวะเพลงที่จะมีการเก็บคะแนนให้ถึงเป้าหมายถึงจะผ่านไปได้ ซึ่งหากตีพลาดมาก ๆ ก็จะไม่ผ่านที่เป็นรูปแบบที่เกมดนตรีทั่วไปใช้งาน และฉากจะเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นหน้าตัวเอกที่เป็นกลอง และแบ่งออกเป็น 2 สีคือสีแดงที่จะเป็นการตีกลองปรกติ และสีฟ้าที่จะเป็นการใช้ไม้ตีด้านข้างของกลอง แน่นอนว่ามีแค่ 2 อย่างทำให้มันเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายมาก ๆ แต่ก็มีการตีแบบรัว ๆ มาให้เราเล่นให้ตรงกับจังหวะเพลงที่ช่วยเสริมความสนุกเข้าไปตลอดการเล่น
แน่นอนว่าเกมแนวนี้บน Nintendo Switch จะได้เปรียบเพราะสามารถเอา Joy-con มาเล่นแทนไม้กลองแล้วทำท่าตีได้ และหากคุณชอบแบบสมจริงก็สามารถไปหาซื้อจอยกลองมาใช้งานได้ด้วยเช่นกัน หรืออยากใช้แบบปุ่มกดปรกติก็เล่นได้แต่อาจจะไม่สนุกเท่า เพราะการได้สะบัดมือทำท่าทางตีจริง ๆ นั้นทำให้เราอินกับการเล่นอย่างมาก
โหมดเนื้อเรื่องที่โดดเด่นปรับแต่งได้
นอกจากโหมดหลักคือ Thunder Shrine ที่เป็น Taiko Mode ซึ่งเป็นโหมดที่มีเพลงทั้งหมดในเกมมาให้เลือกเล่นเพื่อเก็บคะแนนเท่านั้น และจะมีมาให้รวม 76 เพลงและผู้เล่นสามารถอัปเดตเพลงได้ผ่านการซื้อบนร้านค้าออนไลน์ ที่ชอบมากคือจะมีการจัดเรียงเพลงตามโหมดเช่นเพลงจากการ์ตูน, เพลงในเกม, เพลง Jpop ที่ทำให้ผู้เล่นเลือกได้ง่าย
แต่ความโดดเด่นจะอยู่ที่โหมดภารกิจ Taiko Land ซึ่งคล้ายกับโหมดเนื้อเรื่องที่เรียกว่า Toy War ที่จะเรียงร้อยเป็นเรื่องราวต่อสู้กับศัตรูตามภารกิจที่จะแข่งกันทำคะแนน และความโดดเด่นคือจะมีการใช้ไอเทมแกล้งกันเช่นทำให้ศัตรูไปบังไม่ให้ผู้เล่นมองสัญลักษณ์ว่าจะตีกลองจังหวะไหนคล้ายกับการแกล้งกันใน Mario Kart และเราสามารถปรับเพื่อนร่วมทีมเพื่อช่วยต่อสู้กับศัตรูได้ ที่เมื่อปรับแต่งทีมแล้วจะส่งผลให้การเล่นง่ายขึ้นด้วย ส่วนอีกโหมดคือ Don-chan Band ซึ่งเราจะสามารถเล่นกับเพื่อน 4 คนพร้อมกันเพื่อสร้างสรรค์เสียงดนตรีสนุก ๆ ได้แต่ไม่มีเพื่อนมาร่วมกันก็สนุกได้แต่ต้องเล่นกับ AI แทน
และเมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ จะปลดล็อกไอเทมใหม่ที่มีทั้งชุดตัวละครมาปรับแต่งได้ในโหมด My Room ที่เหมือนเป็นบ้านของเราที่แม้อาจจะไม่สามารถปรับได้มากมายนัก แต่ก็ช่วยเสริมให้มีอะไรให้ทำมากกว่าเกมเพลย์หลัก ปิดท้ายกับโหมด Dondoko Town ร้านค้าออนไลน์ที่เราสามารถเข้าไปโหลดไอเทมใหม่รวมทั้งเพลงใหม่ได้ แต่ก็ต้องเสียเงินจริง ๆ เพื่อไปซื้อมา
การกลับมาของเกมตีกลองในตำนาน Taiko no Tatsujin Rhythm Festival ที่อาจจะไม่โดดเด่นในส่วนของเกมเพลย์เนื่องจากมันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ภาพก็เหมือนกับภาคก่อนหน้านี้ไม่เปลี่ยนเช่นกัน แต่เชื่อว่าแฟนซีรีส์นี้น่าไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว และอย่างน้อยโหมดเนื้อเรื่องก็สร้างออกมาดีและยังปรับแต่งตัวละครได้ ใครอยากหาเกมดนตรีที่สนุกมันก็พอมีความดีงามอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส