รีวิวเกม Metroid Prime Remastered นักล่าในตำนานกลับมาแบบ HD

หนึ่งในซีรีส์เกมยิง FPS ของค่าย Nintendo ที่แฟน ๆ รักและอยากให้เอามาสร้างใหม่แบบ HD มาตลอดคือ Metroid Prime เพราะไตรภาคแรกของซีรีส์ไม่เคยถูกสร้างแบบความชมชัดสูงมาก่อน และในที่สุดปู่นินก็เปิดตัว Metroid Prime Remastered แบบไม่ให้ตั้งตัวแถมวางขายในทันทีเลยทำเอาแฟน ๆ กดซื้อแทบไม่ทัน

และการมาของภาครีมาสเตอร์ คาดว่าเพราะปู่นินสร้างมาให้คอเกมที่รอ Metroid Prime 4 ได้เล่นแก้ขัดไปก่อน นอกจากนี้ยังสามารถดึงดูดแฟนหน้าใหม่ให้ได้สัมผัสความสนุกแบบคลาสสิกเป็นครั้งแรกด้วย โดยต้นฉบับ Metroid Prime ออกบน Gamecube ในปี 2002 และมีการเอามาขายอีกรอบบน Wii ในภาครวมฮิต ทำให้การกลับมาครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว

เรื่องราวใน Metroid Prime จะเกิดขึ้นเมื่อนักล่าเงินรางวัลสาว Samus Aran ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยานอวกาศ Orpheon ของ Space Pirate แต่เมื่อเข้าไปในยานลูกเรือได้ตายหมดจากการทดลองการดัดแปลงพันธุกรรม เธอยังได้พบกับตัวการ Parasite Queen และหลังจากหลบหนีจากยานที่ระเบิดได้ แต่ก็ทำให้ชุดของ Samus เสียหายหนัก ทำให้เธอต้องออกค้นหาความจริงบนดาว Tallon IV และทำให้ชุดเกราะของเธอกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม เรื่องราวเขียนออกมาดีน่าติดตามมาก แม้จะไม่ได้มีเสียงพากย์ของตัวละครหลัก แต่ก็เล่าเรื่องได้ดีไม่เชยแม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม

กราฟิกอัปเกรดไม่ได้เพิ่มแค่ HD

ขึ้นชื่อว่า รีมาสเตอร์ ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะอัปเกรดแค่ความคมชัดเท่านั้น ยิ่งผลงานส่วนใหญ่ที่เอามาปรับภาพบน Nintendo Switch ทำออกมาไม่ดีนักทำให้หลายคนไม่คาดหวังแม้ว่าจะเป็นผลงานของปู่นินเองก็ตาม แต่พอได้สัมผัส Metroid Prime Remastered ดูดีกว่าที่คิดมาก ๆ เพราะของเดิมถือว่าทำได้ดีงานออกแบบไม่เชย ความคมชัดที่เพิ่มขึ้นมาทำให้ทุกอย่างดูอัปเกรดขึ้นในมาก

นอกจากความชัดระดับ HD แล้วพื้นผิวแสงเงาถูกทำใหม่ หลายฉากมีการสร้างขึ้นมาใหม่รวมทั้งใส่เอฟเฟกต์เข้าไปเพิ่ม แม้ว่าอาจจะไม่สามารถเอาไปเทียบกับเกมยุคใหม่ได้ แต่หากมองว่ามันคือการเอาของเดิมที่วางขายมาเกิน 20 ปีมาปรับภาพใหม่ถือว่าดูดีกว่าหลายเกมเลยด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่ดูเหมือนจะไม่ได้ปรับอะไรแต่ของเดิมก็ยอดเยี่ยมระดับตำนานทำให้มันยังคงดูดี เพราะมีการเอาเพลงธีมในตำนานของซีรีส์ Metroid ใส่เข้ามาด้วย

เกมเพลย์ เกมยิงแบบผสมผสาน

หากคุณเคยเล่นก็แทบไม่ต้องบอกอะไรไปหามาเล่นได้เลย เพราะมันคือหนึ่งในเกมระดับตำนานของ Nintendo อยู่แล้ว แต่หากยังไม่เคยเล่นก็บอกเลยว่ามันคือเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 FPS ที่ผสมผสานให้เกิดความแตกต่าง เพราะปรกติเกมยิงทั่วในยุคนั้นที่มักจะเน้นการยิงศัตรู และความหวือหวาแบบหนังแอ็กชัน แต่ในเกม Metroid Prime จะมีการผสมผสานของเกมแนวแก้ปริศนาเข้าไปอย่างลงตัว

เพราะผู้เล่นจะไม่ได้เพียงแค่ยิงศัตรูในฉาก แต่ต้องค้นหาเส้นทางไปต่อที่ต้องใช้ทั้งการแก้ปริศนา แถมยังต้องใช้ระบบสแกนเอาไว้ใช้สำรวจฉากเพื่อค้นหาทางไปต่อ, เส้นทางลับ หรือไอเทมที่ซ่อนอยู่ได้และมันจำเป็นมากหากผู้เล่นติดตรงไหนก็ให้กดเข้าไปสแกนฉากได้เลย และการแก้ปริศนายังเอารูปแบบของซีรีส์ Zelda มายำรวมด้วย เพราะเราจะได้ใช้อาวุธหรือความสามารถพิเศษของชุดเพื่อเปิดทางได้

เช่นการเก็บปืนจรวดที่นอกจากยิงศัตรูยังเอาไว้เปิดประตู หรือการแปลงร่างเป็นลูกบอลเพื่อกลิ้งไปในที่แคบ หรือความสามารถกระโดดหมุนตัว Screw Attack ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ก็ใส่เข้ามา รวมทั้งการใช้เชือกพลังไฟฟ้าเพื่อห้อยโหนแบบทาร์ซาน และมันเหมือนเป็นการนำแอ็กชัน Metroidvania มานำเสนอด้วยมุมมองบุคคลที่ 1 ได้ยอดเยี่ยมและลงตัวมาก

ฉากซับซ้อนต่อสู้กับบอสสนุก

หลายคนอาจจะคิดว่าฉากใน Metroid Prime จะดูยากเพราะเป็น 3 มิติแถมใช้มุมมองบุคคลที่ 1 อีก แต่ใครจะเชื่อว่าทีมงานสามารถออกแบบด่านให้ออกมาเข้าใจง่ายแต่ยังคงมีความซับซ้อน ผู้เล่นสามารถเดาเส้นทางได้ง่าย หากติดขัดก็ใช้โหมดสแกนเพื่อค้นหาทางแม้จะไม่ได้บอกตรง ๆ แต่ก็ช่วยได้มาก อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบแผนที่แบบ 3 มิติที่ดูง่ายมาก ส่วนนี้ต้องชมเพราะมันดูเข้าใจง่ายกว่าเกมยิงยุคนี้หลายเกมเลยด้วยซ้ำ

อีกจุดเด่นคือการต่อสู้กับบอสที่ไม่ได้แค่ยิง ๆ ก็ผ่านแบบเกมทั่วไป ผู้เล่นต้องค้นหาจุดอ่อนถึงจะกำจัดได้ และยังต้องใช้อาวุธที่มันแพ้ทางด้วย แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะง่าย ๆ เพราะบอสบางตัวต้องใช้หลากหลายวิธีและใช้อาวุธหลายประเภทเพื่อเปิดจุดอ่อนมันออกมา เรียกว่าซับซ้อนจนอาจจะบอกได้เลยว่ามันคือ Zelda เวอร์ชันเกมยิงได้เลย

แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่เกมแรกที่ใช้รูปแบบผสมผสานเกมยิงกับแนวสำรวจ แต่ Metroid Prime ทำออกมาได้ดีมากจนอาจจะเรียกว่าดีที่สุดเลยก็ว่าได้ น่าเสียดายที่การเอากลับมาปัดฝุ่นขายใหม่ไม่ได้ยำรวม 3 ภาคแบบสมัยออกบน Wii แต่ยังดีที่มีการเพิ่มระบบการควบคุมแบบเดียวกับ Wii เข้ามาด้วยทำให้มันรองรับการใช้ Joy-con เพื่อเล็งยิงเหมือนกัน ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบ

โดยรวมแล้ว Metroid Prime Remastered แม้ราคาขายจะค่อนข้างแพงสำหรับการรีมาสเตอร์ของเก่าที่มีอายุเกิน 20 ปี แต่มันก็เป็นหนึ่งในตำนานของวงการเกม เพราะมันสามารถเอาตำนานเกม 2 มิติเปลี่ยนเป็นเกมยิง 3 มิติได้ลงตัวมีการใส่ของใหม่มาผสมผสานกับแนวทางเดิมของซีรีส์แบบไม่เสียของ แนะนำว่าต้องหามาเล่นไม่ว่าคุณจะเคยเล่นต้นฉบับหรือไม่เคยเล่นก็ไม่ควรพลาด