บราซิลเผย 'ป่าชนพื้นเมือง' ในแอมะซอน ถูกทำลายเพิ่ม 129%
เซาเปาโล, 26 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (25 เม.ย.) ผลการศึกษาจากมูลนิธิวิจัยเซาเปาโล ซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสารไซเอนทิฟิค รีพอร์ตส (Scientific Reports) เปิดเผยว่าการตัดไม้ทำลายป่าอย่างผิดกฎหมายบนที่ดินของชนพื้นเมืองในป่าแอมะซอนของบราซิลเพิ่มขึ้นร้อยละ 129 ระหว่างปี 2013-2021รายงานระบุว่าการทำลายป่าแอมะซอนส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 96 ล้านตัน โดยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 59 เกิดขึ้นระหว่างปี 2019-2021ผลการศึกษาทำการวิเคราะห์ดินแดนชนพื้นเมือง 232 แห่ง และพบว่าการตัดไม้ทำลายป่าในดินแดนดังกล่าวเพิ่มแตะ 1,708 ตารางกิโลเมตร (ราว 1.06 ล้านไร่) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 2.38 ของป่าแอมะซอนในบราซิลเซลโซ ซิลวา ศาสตราจารย์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์แห่งมหาวิทยาลัยสหพันธรัฐมารันเญา กล่าวว่าการตัดไม้ทำลายป่ายังสร้างปัญหาอื่นในพื้นที่เหล่านี้ เช่น การแพร่ระบาดของโรค และภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของกลุ่มชนพื้นเมืองที่โดดเดี่ยวกิลเยร์เม มาตาเวลิ หนึ่งในผู้ร่วมเขียนผลการศึกษา ระบุว่าดินแดนของชนพื้นเมืองถือเป็นประเด็น "สำคัญ" สำหรับบราซิลในการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากบราซิลมีพื้นที่ป่าฝนแอมะซอนถึงร้อยละ 60