รีเซต

คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่ หากรวมนิติบุคคลจด VAT ประโยชน์จะถึงใครบ้าง?

คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่ หากรวมนิติบุคคลจด VAT ประโยชน์จะถึงใครบ้าง?
TNN ช่อง16
23 กันยายน 2568 ( 11:37 )
34

โครงการคนละครึ่งที่หลายคนคุ้นเคยกำลังจะกลับมาในเวอร์ชันใหม่ คราวนี้สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือความเป็นไปได้ที่จะเปิดโอกาสให้ “นิติบุคคลที่จด VAT” เข้าร่วมด้วย สำหรับประชาชนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความจริง หากร้านค้าจด VAT เข้ามาอยู่ในโครงการ ประโยชน์จะกระจายไปทั้งฝั่งประชาชน ฝั่งร้านค้า และฝั่งรัฐบาล

ในปัจจุบันร้านค้าที่จด VAT คือร้านที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และต้องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากลูกค้า เช่น หากซื้อของ 100 บาท ร้านต้องคิด VAT อีก 7 บาท แล้วส่งต่อให้กรมสรรพากร การออกใบกำกับภาษีจึงเป็นหลักฐานชัดเจนว่ามีการซื้อขายจริงและเงินภาษีไหลกลับสู่รัฐ

เงินคนละครึ่งหนึ่งสิทธิ์ สร้างรายได้ภาษีหลายชั้น

ลองสมมติว่ามีประชาชนใช้สิทธิ์คนละครึ่ง ซื้อของมูลค่า 200 บาท รัฐช่วยออก 100 บาท และประชาชนจ่ายเองอีก 100 บาท หากร้านค้านั้นจด VAT การซื้อขายครั้งนี้จะทำให้เกิดภาษีมูลค่าเพิ่มทันที 14 บาท (คิดจาก 200 บาท x 7%) ซึ่งร้านค้าต้องส่งคืนให้กรมสรรพากร

แต่เรื่องไม่ได้จบแค่ตรงนี้ เพราะเมื่อร้านค้าขายของได้ ก็ต้องนำเงินไปซื้อสินค้าใหม่มาเติมสต็อก เช่น ซื้อของจากซัพพลายเออร์อีก 150 บาท ซึ่งตรงนี้ก็จะมี VAT แฝงอยู่ที่ซัพพลายเออร์ต้องส่งให้รัฐ กลายเป็นการสร้างรายได้ภาษีอีกชั้นหนึ่งในห่วงโซ่เศรษฐกิจ

นอกจากนี้ เมื่อสิ้นปี ร้านค้านำผลประกอบการมาคำนวณภาษีนิติบุคคล หากมีกำไร รัฐก็จะเก็บภาษีจากส่วนนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งรอบ เท่ากับว่าการใช้สิทธิ์เพียงครั้งเดียวของประชาชน ไม่ได้หยุดที่รัฐจ่ายเงินออกไป แต่เงินก้อนนั้นจะถูกดึงกลับเข้าคลังในหลายทาง ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีนิติบุคคล

กล่าวให้ง่ายที่สุด คือ เงินที่รัฐช่วยออก 100 บาท กลายเป็นการสร้าง “การหมุนเวียนทางภาษี” ที่ทำให้รัฐได้รายได้กลับมา ไม่ใช่เงินที่จ่ายออกไปแล้วหายไปเลย แต่กลายเป็นกลไกที่ทำให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวและสร้างรายได้ภาษีซ้ำหลายรอบ

ร้านค้าได้ลูกค้าเพิ่ม ประชาชนมั่นใจ สิทธิ์คนละครึ่งโปร่งใสขึ้น

สำหรับร้านค้า การเข้าร่วมคนละครึ่งหมายถึงโอกาสที่จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นทันที เพราะเมื่อประชาชนได้รับสิทธิ์ช่วยจ่ายจากรัฐ พฤติกรรมการจับจ่ายก็จะมากขึ้น ร้านค้าที่เข้าร่วมจึงมียอดขายสูงกว่าปกติ และสำหรับร้านขนาดเล็กที่ลังเลไม่จด VAT การเปิดสิทธิ์เฉพาะร้านที่เข้าสู่ระบบภาษีจะกลายเป็นแรงจูงใจสำคัญ หากอยากได้ลูกค้าเพิ่มจากโครงการ ก็จำเป็นต้องจด VAT และเข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการ

ประโยชน์อีกด้านคือสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ทุกการซื้อขายที่ใช้สิทธิ์จะมีใบกำกับภาษีเป็นหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน รายละเอียดสินค้า หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของร้านค้า ข้อมูลเหล่านี้ตรวจสอบย้อนหลังได้จริง จึงช่วยลดโอกาสการทุจริต เช่น ร้านค้าสวมสิทธิ์หรือสร้างบิลปลอม เพราะทุกอย่างต้องผ่านระบบภาษีของกรมสรรพากร

ในภาพรวม ร้านค้าได้ยอดขายเพิ่ม ผู้ประกอบการรายเล็กมีแรงจูงใจเข้าสู่ระบบภาษี และประชาชนได้ความมั่นใจว่าการใช้สิทธิ์ของตนเป็นธุรกรรมจริงที่ตรวจสอบได้ ทำให้โครงการมีความโปร่งใสมากขึ้นทั้งฝั่งผู้ใช้และผู้ให้บริการ

ตัวอย่างง่ายๆ หากร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าส่งที่มี VAT เข้าร่วม โครงการจะช่วยให้ประชาชนซื้อของใช้จำเป็นได้ในราคาประหยัด ขณะที่รัฐยังคงเก็บ VAT กลับคืน และร้านค้าก็ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น เท่ากับทั้งสามฝ่ายได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน

แน่นอนว่ายังมีข้อกังวล เช่น หากร้านค้าขนาดใหญ่เข้ามาเต็มที่อาจทำให้ร้านเล็กเสียเปรียบ รัฐจึงอาจต้องกำหนดเพดานต่อสาขาหรือวงเงินต่อวัน เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรมที่สุด แต่ในภาพรวม หากสามารถออกแบบเงื่อนไขอย่างรอบคอบ คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงช่วยพยุงการใช้จ่ายในช่วงสั้น แต่ยังทำให้ระบบภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนกว่าเดิม 

แม้แนวคิดการเปิดให้นิติบุคคลที่จด VAT เข้าร่วมโครงการจะมีข้อดีในหลายด้าน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือรูปแบบและระดับการเข้าร่วมยังเป็นเพียงข้อเสนอในเวทีสาธารณะ ยังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายจากรัฐบาลหรือกระทรวงการคลัง การกำหนดรายละเอียดจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่สังคมต้องติดตามต่อไป

ประเด็นที่ถูกจับตาคือความสมดุลระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่และร้านค้ารายเล็ก หากไม่มีเพดานหรือกลไกควบคุมที่ชัดเจน อาจเกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และทำให้เจตนารมณ์ในการสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กถูกลดทอนลง ขณะเดียวกันการออกแบบระบบตรวจสอบ เช่น การบังคับออก e-Tax Invoice หรือการกำหนดวงเงินใช้สิทธิ์ต่อสาขา จะช่วยควบคุมไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบเกินไป

ภาพรวมแล้ว หลักคิดที่ว่ารัฐช่วยจ่าย ประชาชนได้ใช้จ่าย และร้านค้าได้ยอดขาย พร้อมกับรัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นนั้น สอดคล้องกับสิ่งที่หลายฝ่ายคาดหวัง หากการออกแบบนโยบายทำได้รอบคอบ คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่ก็อาจเป็นมากกว่ามาตรการระยะสั้น แต่เป็นเครื่องมือเชื่อมเศรษฐกิจจริงกับระบบภาษีที่เข้มแข็งและโปร่งใสในระยะยาว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง