TITLE จ้องปักหมุดสมุย ตุนแบ็กล็อก 1.52 หมื่นล.

#TITLE #ทันหุ้น – TITLE ข้ามฟากสำรวจพื้นที่ เตรียมปักหมุดสมุย มองมีศักยภาพแข่งขันได้ ด้านอสังหาภูเก็ตยังโดดเด่น ยอดขายพุ่งกระฉูด แบ็กล็อกแน่น 1.52 หมื่นล้านบาท ทยอยบุ๊คยาวถึงปี 2570 รุกเจาะลูกค้าต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
นายดรงค์ หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในเครือแอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปยังเกาะสมุย ซึ่งได้เดินทางเข้าไปสำรวจพื้นที่ และที่ดินแล้ว 2 รอบ โดยมองว่ามีศักยภาพในการแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามแนวคิดในการไปสมุยในตอนนี้ ยังไม่ได้มีการซื้อที่ดินเข้ามา อยู่ในระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันยังคงต้องทุ่มเทกับการจัดการในภูเก็ตก่อน
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ยังคงอยู่ในช่วงที่ดี และมีการขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่ในส่วนของยอดขายบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะมีการเปิดโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
** ตุนแบ็กล็อกแน่น
สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดตัวไปในช่วงเดือนกันยายน และเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ายอดขายเป็นไปอย่างน่าพอใจ ซึ่งเป้ารายได้ปีนี้ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท 9 เดือนทำไปแล้ว 1,628 ล้านบาท โครงการที่สร้างรายได้หลักในปีนี้คือโครงการ The Title Legendary มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วเกือบ 90% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ราว 15,259 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงปี 2570
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ทำให้ยอดขายในภูเก็ตยังคงโดดเด่นและขายดีนั้น มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้า และการที่ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติ โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากเม็ดเงินของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งแตกต่างจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยทั่วไป ส่งผลให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสภาวะเศรษฐกิจของไทย แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะประสบปัญหา แต่ภูเก็ตยังเป็นแหล่งที่เป็นจุดมุ่งหวังของชาวต่างชาติ ที่จะย้ายถิ่นฐาน
นอกจากนี้บริษัทเริ่มมีการกระจายโครงการอสังหาฯ ในรูปแบบพูลวิลล่า (Pool Villa) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
“ภูเก็ตยังเป็นแหล่งที่เป็นจุดหมายของชาวต่างชาติที่อยากย้ายถิ่นฐาน แม้ภูเก็ตจะถูกมองว่ามีค่าครองชีพที่สูงของคนไทย แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว ค่าครองชีพยังถือว่าถูก หากเทียบกับประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ และสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันสามารถเข้าถึงได้ในราคาปกติ” นายดรงค์ กล่าว
** เปิดโครงการใหม่ปีหน้า
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยคาดว่าจะมีประมาณ 5-6 โครงการ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี การเปิดโครงการจะทำตามภาวะที่มั่นใจ และจะมีการเติมสินค้าในส่วนที่ตลาดต้องการ หรือขาดแคลน
นอกจากโครงการคอนโด ซึ่งเป็นตลาดหลักแล้ว บริษัทได้เริ่มขยับไปพัฒนาโครงการบ้าน (Houses) โดยได้เปิดไปแล้ว 2 โครงการ แม้ว่าบางโครงการยังไม่มีการสร้างบ้านตัวอย่าง หรือซุ้มประตูหมู่บ้านเสร็จสมบูรณ์ แต่โครงการพลูวิลล่าหนึ่งโครงการก็สามารถขายหมดแล้ว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
