พิษรัสเซีย-ยูเครน ! ชิปขาดแคลนยอดส่งออกรถยนต์วูบ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย.65 อยู่ที่ 143,014 คัน ขยายตัว 6.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการผลิตเพื่อขายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่การผลิตเพื่อการส่งออกยังติดลบ เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์
ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) ผลิตได้ 870,109 คัน เพิ่มขึ้น 3.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ผลิตได้ 844,601 คัน โดยคาดว่าทั้งปีจะผลิตได้ 1.7 ล้านคัน ลดลงเล็กน้อยจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.8 ล้านคัน เนื่องจากสงครามยูเครนและรัสเซีย ส่งผลทำให้การขาดแคลนชิ้นส่วนมากขึ้น เพราะยูเครนและรัสเซีย เป็นประเทศหลักในการผลิตชิ้นส่วน ประกอบกับจีนมีการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดด้วย
“ในการประชุมส.อ.ท.เร็วๆนี้ จะมีการทบทวนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปีนี้ว่าจำเป็นต้องปรับเป้าหมายหรือไม่ โดยจะต้องนำปัจจัยหลายอย่างมาประกอบทั้งการขาดแคลนชิ้นส่วน สงครามรัสเซียและยูเครน รวมถึงการห้ามนำเข้ารถยนต์ของเมียนมาด้วย”
สำหรับการจำน่ายรถยนต์ในประเทศเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 67,952 คัน เพิ่มขึ้น 4.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่จำหน่ายได้ 64,974 คัน จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับดีขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายในเดือนมิ.ย.นี้ ขณะที่ 6 เดือนแรกจำหน่ายได้ 427,399 คัน เพิ่มขึ้น 14.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จำหน่ายได้ 373,191 คัน
ด้านการส่งออกในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 73,887 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11% เนื่องจากขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งและรถ PPV ลดลง โดยการส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 42,781.17 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.18%
ขณะที่ 6 เดือนแรก ส่งออกได้ 449,644 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.04% และมีมูลค่าการส่งออก 266,654.08 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5%
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ทั้งสิ้น 1,623 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 229.21% ขณะที่ 6 เดือนแรกมียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 7,325 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 169.40% ด้านยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,625 คัน เพิ่มขึ้น 98.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ 6 เดือน มียอดสะสม 32,718 คัน เพิ่มขึ้น 53,72%
ด้านยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,085 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50% ขณะที่ 6 เดือนแรก มียอดสะสมที่ 5,947 คัน เพิ่มขึ้น 55.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่มา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ภาพประกอบ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย