'เทสลา' เผยรายรับพุ่ง 98% ช่วงไตรมาส 2
ซานฟรานซิสโก, 27 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.) เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสหรัฐฯ เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ของงบการเงินปี 2021 ที่ 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.93 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 98 จากปีก่อนหน้า
บริษัทฯ เผยรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) ในช่วงเวลาเดียวกันที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.34 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 258 จากปีที่แล้ว ขณะที่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด (Cash and cash equivalents) อยู่ที่ 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.34 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 88 เมื่อเทียบปีต่อปี
ในไตรมาสที่ 2 เทสลาทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในการผลิตและส่งมอบรถยนต์ โดยมียอดผลิตรวม 206,421 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 151 เมื่อเทียบเป็นรายปี และการส่งมอบรวม 201,304 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 121 จากปีที่แล้ว
เทสลาระบุว่า บริษัทยังคงเผชิญความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในทั่วโลกและปัญหาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากความแออัดของท่าเรือที่ยังคงพบในไตรมาสดังกล่าว ขณะที่ความต้องการรถยนต์ทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ การจัดหาส่วนประกอบรถยนต์จึงมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่ออัตราการเติบโตด้านการส่งมอบรถยนต์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
แผนงานของบริษัทฯ ระบุว่าเทสลาเพิ่งเปิดตัวรถยนต์รุ่นโมเดล วาย (Model Y) รุ่นมาตรฐานในประเทศจีน "เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และการบริหารต้นทุนเฉลี่ยอย่างมีประสิทธิภาพในทั่วโลก เราจึงดำเนินการปรับเปลี่ยนโรงงานกิกะแฟคทอรี เซี่ยงไฮ้ ให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์หลักเรียบร้อยแล้ว" เทสลากล่าว
"แม้จะเกิดปัญหาการหยุดชะงักบ้างเล็กน้อย เนื่องจากความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานและการปรับปรุงโรงงาน ทว่าการผลิตในเซี่ยงไฮ้ยังคงเดินหน้าไปอย่างแข็งแกร่ง" รายงานระบุเสริม