รัฐสภาพบผู้ติดเชื้อโควิดอีก2ราย เผยไทม์ไลน์มีเสิร์ฟน้ำ-อาหารให้ส.ส.ด้วย

วันนี้ (18มิ.ย.64) นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงถึงกรณีที่มีแม่บ้านรัฐสภา ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 2 คน ว่า รายแรกเป็นพนักงานเก็บจาน ที่ทำงานในโรงอาหารรัฐสภาชั้น1 ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนบุตรชายของพนักงานคนดังกล่าว ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้พนักงาคนดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อด้วย ก่อนทราบผลในวันที่ 16 มิถุนายนพบว่าตนเองติดเชื้อเช่นเดียวกัน ซึ่งรัฐสภา ได้คัดกรองหาบุคคลใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำ 

ก่อนนำส่งผู้มีความเสี่ยงสูง 2 รายตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างรอผล และอีก 2 คน อยู่ระหว่างการรอตรวจหาเชื้อในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) 

ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ 2 คน ให้กักตัวตามมาตรการสาธารณสุข และหากพบการติดเชื้อในส่วนใดของรัฐสภาอีกก็จะมีการตีวงความเสี่ยงป้องกันต่อไป  

ส่วนผู้ป่วยอีกคนหนึ่งนั้น เป็นข้าราชการบำนาญของรัฐสภาที่ยังคงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภา เพื่อบริการเสิร์ฟน้ำ และเสิร์ฟอาหารให้กับส.ส. และรัฐมนตรีบางคน ในวันที่ 9 และ 10 มิถุนายน ซึ่งวันที่ 9 ได้ไปเสิร์ฟอาหารให้กับรัฐมนตรีที่ชั้น 3 โซนห้องประชุม ส.ส. และในวันที่ 10 ได้เข้าไปเสิร์ฟอาหารภายในห้องทำงานของ ส.ส. ก่อนวันที่ 11 มิถุนายน จะมีไข้ และปวดตามเนื้อตัว จึงไปตรวจหาเชื้อในวันที่ 15 มิถุนายน และพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 

ซึ่งกรณีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 4 รายซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ หลังไปตรวจเชื้อเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาและตรวจในวันนี้ (18 มิ.ย.) อีก 3 รายและพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) อีก 1 รายโดยทั้งหมด จะต้องกักตัวตามมาตรการ ส่วนรัฐมนตรี ที่แม้ส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้นก็ได้ไปตรวจหาเชื้อแล้ว และไม่พบการติดเชื้อ 

ส่วน ส.ส.ที่ใกล้ชิด ก็ได้แจ้งให้รับทราบแล้วโดยขณะนี้ รัฐสภา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 19 ราย แต่ยืนยันว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายในได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์รัฐสภา  

นพ.สุกิจ ยังกล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในสัปดาห์หน้าที่จะมีการรวมตัวของส.ส. 500 คน และ ส.ว. 500 คนภายในรัฐสภาว่ารัฐสภามีความพร้อมในมาตรการ แต่ยอมรับว่า การเว้นระยะห่างภายในห้องประชุมรัฐสภาในช่วงการลงมติสามารถทำได้ยากแต่มั่นใจว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัย จะสามารถป้องกันได้ และในระหว่างการประชุมส.ส. และ ส.ว. สามารถเข้าไปรับฟังการประชุม ภายในห้องนำงานส่วนตัวได้ เพื่อลดการรวมตัวภายในห้องประชุมพระสุริยัน 

นอกจากนี้ ยังย้ำด้วยว่า มาตรการของรัฐสภา ในการป้องกันโควิด-19ทั้งวันที่มีการประชุม และงดการประชุม ได้จัดอย่างเหมาะสม ไม่ถึงขั้นไม่ให้บุคคลนอกเข้ามาไม่ได้แต่จะไม่หละหลวม และเก็บรายละเอียดทุกแง่มุมภายใน และนอกห้องประชุมโดยจะกวดขันอยู่เสมอ แต่แม้มาตรการจะเข้มงวด ก็จะต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติด้วยเพราะไม่สามารถปฏิบัติให้ทุกคนปฏิบัติตนได้อย่างเคร่งครัดทุกกรณี เช่น การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ประธานการประชุม ต้องคอยกำชับ ส.ส.รักษาระยะห่าง ไม่ให้ ส.ส.ไปนั่งรวมกันเพื่อออกโทรทัศน์แต่ยืนยันว่า รัฐสภา ยังสามารถรับมือการระบาดได้