รีเซต

ส.ภัตตราคารไทย เข้าใจ-ยอมรับผล หลัง ศบค.คงมตินั่งดื่มได้ถึง 3 ทุ่ม

ส.ภัตตราคารไทย เข้าใจ-ยอมรับผล หลัง ศบค.คงมตินั่งดื่มได้ถึง 3 ทุ่ม
มติชน
10 มกราคม 2565 ( 08:18 )
49
ส.ภัตตราคารไทย เข้าใจ-ยอมรับผล หลัง ศบค.คงมตินั่งดื่มได้ถึง 3 ทุ่ม

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยถึงมติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ประกาศอนุญาตบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ โดยคงข้อจำกัดเวลาไม่เกิน 21.00 น. ว่า จากประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้ประกอบการร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ที่ปรับตัวมาเป็นร้านอาหารอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ร้านอาหารกึ่งผับบางร้านปล่อยปะละเลย จึงเป็นเหตุให้เกิดการกระจายของเชื้อโควิด-19 ขึ้น ดังนั้น การที่ ศบค.คงมติเดิมไว้จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งทางผู้ประกอบการเข้าใจและยอมรับผล อีกทั้งยังเป็นเรื่องดีที่ได้สั่งห้ามขายเครื่องเดิมแอลกอฮอล์ไปทั้งหมดเลย

 

นางฐนิวรรณ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ทางสมาคมฯ จะมีการเน้นย้ำผู้ประกอบการให้มากขึ้น และขอชี้แจงว่าไม่ใช่ทุกร้านที่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ร้านที่สามารถขายได้ต้องมีมาตรฐานหรือเครื่องหมายความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA Plus) และมาตรฐาน Thai Stop Covid Plus เท่านั้น ประชาชน หรือผู้บริโภค ต้องดูแลป้องกันตัวเอง โดยการเลือกเข้าใช้บริการร้านที่มีสัญลักษณ์เหล่านี้ด้วย เพื่อมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและได้มาตรฐานตามที่สาธารณสุขกำหนดไว้แน่นอน

 

“อยากให้ผู้ประกอบการทุกร้านศึกษาเรื่องมาตรฐาน SHA Plus เพิ่มขึ้น เนื่องจากเรายังต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน โดยเฉพาะร้านที่ปรับตัวจากผับบาร์มาเป็นร้านอาหาร กว่า 1 หมื่นร้าน ยิ่งต้องทำความเข้าใจให้มาก เพราะต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ที่เกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ล้วนแต่เกิดในธุรกิจกลุ่มนี้ ดังนั้น ต้องเร่งทำความเข้าใจเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าได้ต่อไป” นางฐนิวรรณ กล่าว

 

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มคลีคลาย ทางสมาคมฯ จะเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอขยายเวลาให้ร้านอาหารที่มีมาตรฐานหรือเครื่องหมาย SHA Plus และ Thai Stop Covid Plus ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเดิมขายได้ถึงเวลา 21.00 น. ขยายเป็น 23.00 น. เพื่อเป็นการจูงใจผู้บริโภค และเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหารต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง