รีเซต

Lightning จ่ออัปเกรดรถไฟฟ้าเป็นแบตเตอรี่ใหม่ ชาร์จไววิ่งไกล 270 กม.

Lightning จ่ออัปเกรดรถไฟฟ้าเป็นแบตเตอรี่ใหม่ ชาร์จไววิ่งไกล 270 กม.
TNN ช่อง16
26 มีนาคม 2566 ( 11:40 )
171

สำหรับไลท์นิง (Lightning Motorcycle) บรนด์ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแรงและทรงพลัง  โดยไลท์นิงได้ผลิตรถอย่าง ไลท์นิง แอลเอส-218 (Lightning LS-218) ไปวางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการไปหลายปีก่อนหน้านี้ ซึ่ถือได้ว่า LS-218 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก


โดยรถซุปเปอร์ไบค์ไฟฟ้า LS-218  และสปอร์ตไบค์รุ่นสไตรค์ (Strike) ของไลท์นิง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ใช้ จากคุณสมบัติของ LS-218 ที่มีความเร็วสูงสุดที่ 352 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องยนต์และวัสดุสุดพรีเมียม ส่วนช่วงล่าง และระบบเบรกระดับรถแข่ง จึงทำให้มีคนจับจองไปขับขี่เป็นจำนวนมาก 


Lightning LS-218 

ที่มาของรูปภาพ Lightning

แต่รถทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมาเบื้องต้น จะกลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากลุ่มแรก ๆ ที่จะได้รับการอัปเกรดด้วยแบตเตอรี่แบบใหม่ของบริษัท เอเนอเวต (Enevate) แบตเตอรี่ที่มีขั้วแอโนดเป็นซิลิคอนบริสุทธิ์ ซึ่งช่วยลดเวลาการชาร์จให้น้อยลงมาก ทั้งยังชาร์จได้เร็วเกือบเทียบเท่ากับการเติมน้ำมันในรถยนต์ หรือกล่าวได้ว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไลท์นิงที่ใช้แบตเตอรี่เอเนอเวต สามารถออกไปโลดแล่นบนท้องถนนควบคู่ไปกับมอเตอร์ไซค์น้ำมันได้โดยไม่ต้องมีใครรอใคร หากมีสถานีชาร์จตามระยะทาง 


 ด้านริชาร์ด แฮตฟิลด์ (Richard Hatfield) ซีอีโอของไลท์นิง เผยว่า ปัจจุบัน มีการทดสอบให้รถมอเตอร์ไซค์ สไตรค์ ตัวต้นแบบ ขี่บนทางหลวงหมายเลข 5 ของสหรัฐอเมริกาขับขี่ได้ระยะทาง 241 ถึง 274 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่การชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80% ของรถทดสอบดังกล่าว ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น 


Lightning Strike Prototype 

ที่มาของรูปภาพ Lightning


สำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นสไตรค์ ใช้ชุดแบตเตอรี่เอเนอเวต ขนาด 24 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) โดยตัวเซลล์ Enevate มีความโดดเด่นตรงที่มีความหนาแน่นสูงกว่าเซลล์แบตเตอรี่ไฟฟ้ามาตรฐาน ทำให้สามารถแบตเตอรี่ขนาด 24 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่มีขนาดเท่ากับแบตเตอรี่มาตรฐานที่ให้พลังงาน 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ก็ยังช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากขึ้น และทำให้รถทรงพลังมากขึ้น 


โดยรวมแล้ว การชาร์จแบตเตอรี่ในตัวรถดังกล่าวเพียง 80% จะทำให้ผู้ขับขี่เดินทางได้ประมาณ 217 กิโลเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับรถสปอร์ตส่วนใหญ่ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งจะต้องจอดเติมน้ำมันเมื่อขับไปในระยะประมาณ 200 กิโลเมตร นั่นหมายความว่า รถที่ได้รับการอัปเกรดจะเป็นรถที่มีแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงอยู่ในระดับแถวหน้าของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน 


โดยพื้นฐานแล้ว แบตเตอรี่เอเนอเวตจะใช้ขั้วซิลิกอนบริสุทธิ์ พร้อมด้วยสารเหนี่ยวนำไฟฟ้าสูตรเฉพาะของบริษัท และนวัตกรรมการออกแบบเซลล์ไฟฟ้าแบบใหม่ ทำให้สามารถชาร์จได้เร็วกว่าเซลล์ลิเทียมไอออนในปัจจุบันถึง 10 เท่า ทั้งนี้ แบตเตอรี่เอเนอเวตยังสามารถชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก 2 เท่า หากมีเทคโนโลยีที่สามารถจัดการกับความร้อนของแบตเตอรี่ได้ อีกทั้งยังให้พลังงานที่หนาแน่นกว่า ทั้งโดยปริมาตรและน้ำหนัก 


จากข้อมูลของ BatteryDesign.net ระบุว่า เซลล์แบตเตอรี่ Tesla 4680-type จากรถ Tesla Model Y รุ่นปี 2022 เก็บพลังงานได้ความจุประมาณ 650 วัตต์ชั่วโมง (Wh) ต่อลิตร และ 244 วัตต์ชั่วโมงต่อกิโลกรัม ขณะที่แบตเตอรี่ของเอเนอเวต เคลมว่าเก็บกักไฟฟ้าได้มากกว่า 850 วัตต์ชั่วโมงต่อลิตร หรือ 340 วัตต์ชั่วโมง ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นความจุพลังงานที่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% และหากคำนวณด้วยน้ำหนัก จะมีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่แบบเดิมเกือบ 40% 

 

อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่เหล่านี้ยังถือว่าเป็นแบตเตอรี่พิเศษ ซึ่งจะมาในราคาพรีเมียมอยู่ โดยการติดตั้งแบตเตอรี่แพ็คเอเนอเวตขนาด 24-kWh สำหรับรถรุ่น Strike และแบตเตอรี่ขนาด 28-kWh สำหรับรถรุ่น LS-218 จะมีราคาเพิ่มขึ้น 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 273,688 บาท ซึ่งยังไม่รวมกับราคาตัวรถ Strike Carbon Edition ดั้งเดิมที่มีราคามาตรฐานอยู่ที่ 19,988 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 683,809 บาท 


ทั้งนี้ แฮตฟิลด์ ผู้บริหารของไลท์นิงกล่าวว่า สาเหตุที่แบตเตอรี่เอเนอเวตมีราคาแพง เนื่องจากแบตชนิดนี้เป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ เขายังมองว่า อาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีโดยประมาณ ก่อนที่ราคาแบตเตอรี่เอเนอเวตจะลดลงมาใกล้เคียงกับแบตเตอรี่อื่น ๆ ในอนาคต


ที่มาของข้อมูล Newatlas

ที่มาของรูปภาพ Lightning


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง