รีเซต

เทคโนโลยี "ปอดในกล่อง" พลิกโฉมการปลูกถ่ายปอด สร้างชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย

เทคโนโลยี "ปอดในกล่อง" พลิกโฉมการปลูกถ่ายปอด สร้างชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย
TNN ช่อง16
30 ธันวาคม 2567 ( 15:07 )
32

เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการแพทย์ เมื่อโรงพยาบาลรอยัลพาพเวิร์ธ (Royal Papworth Hospital) ในเมืองเคมบริดจ์เชียร์ (Cambridgeshire) สหราชอาณาจักร ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีปอดในกล่อง (XPS system) มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคปอดขั้นรุนแรง เทคโนโลยีสุดล้ำนี้ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนปอดบริจาค และเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตให้ผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่าย


ก่อนหน้านี้ปอดที่ได้จากการรับบริจาคและสามารถนำไปใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะได้มีน้อยมาก และกว่าร้อยละ 81 ถูกปฏิเสธ เนื่องจากส่วนใหญ่ปอดที่ได้รับมามีการอักเสบ เทคโนโลยีปอดในกล่อง หรือ XPS System จึงมีบทบาททางการแพทย์อย่างมีนัยสำคัญ


ที่มาของภาพ:NSH-Royal Papworth Hospital

 

ระบบ "XPS System" ทำงานอย่างไร?

เพื่อรักษาปอดที่ได้รับบริจาคให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด เทคโนโลยี XPS จะจำลองสภาพแวดล้อมการเก็บรักษาปอดให้คล้ายสภาพเเวดล้อมภายในร่างกายมนุษย์ให้เหมือนที่สุด ก่อนจะนำเข้าไปปลูกถ่ายจริงดยใช้วิธีการฟอกเลือดและเติมอากาศให้ปอดภายนอกร่างกาย (Ex-Vivo Lung Perfusion - EVLP) ทำให้ปอดสามารถคงสภาพที่ดีได้นานสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง


เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพของปอดได้อย่างละเอียดก่อนการปลูกถ่าย ทำให้การปลูกถ่ายประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยหากผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายปอดที่มีคุณภาพดี จะสามารถลดภาวะแทรกซ้อนหลังการปลูกถ่าย และสามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้อีกด้วย


นับเป็นก้าวสำคัญของพัฒนาวงการปลูกถ่ายอวัยวะ หลังจากแดเนียล อีวาน สมิทธิ์ (Daniel Evans-Smith) วัย 49 ปี จากเมืองนอร์ธแธมป์ตั้น (Northampton) ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ซึ่งใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาแล้วกว่า 6 เดือน คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับการปลูกถ่ายปอดทั้งสองข้าง โดยใช้เทคโนโลยี XPS โดยเขาเล่าว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ และการปลูกถ่ายครั้งนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก


ที่มาของภาพ: NSH-Royal Papworth Hospital


คาดว่าเทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มจำนวนปอดที่สามารถนำไปใช้ในการปลูกถ่ายได้มากขึ้น และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคปอดจำนวนมากได้ในอนาคต


ที่มาของข้อมูล: BBC , Medical Device Network

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง