หุ้นกลุ่มอาหาร คาดมาร์จิ้นปี 2568 กว้างขึ้น หนุนโดยต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง
#หุ้นกลุ่มอาหาร #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.อินโนเวสท์เอกซ์
หุ้นกลุ่มอาหาร คาดมาร์จิ้นปี 2568 กว้างขึ้น หนุนโดยต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง
คาดกําไรปี 2568 เติบโต โดยเฉพาะในครึ่งปีแรก 2568 หลังจากเริ่มเห็นการฟื้นตัวในปี2567 กําไรปี 2568 ของกลุ่มอาหารมีแนวโน้มที่จะเติบโต (+15% YoY) โดยได้แรงหนุนจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง (ต้นทุนอาหารสัตว์ในไตรมาส 4/67 อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี) อย่างน้อยในครึ่งปีแรก 2568 จากสภาวะการเพาะปลูกที่ดี ราคาสุกรในประเทศที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากการบริหารจัดการอุปทานที่ดีขึ้น ราคาไก่เนื้อในประเทศและราคาสุกรในเวียดนามที่ค่อนข้างทรงตัวจากอุปทานและอุปสงค์ที่สมดุลมากขึ้น ท่ามกลางราคาสุกรในจีนที่ลดลงเล็กน้อยจากอุปสงค์ที่เปราะบาง
ผลกระทบต่อกําไรของกลุ่มอาหารไม่มีนัยสําคัญเนื่องจาก upside จะช่วยชดเชยdownside upside จากการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยชดเชย downside จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ การแข็งค่าของเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ และการนํา global minimum tax มาใช้
หุ้นเด่นของเราคือ BTG BTG เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากบริษัทมีแนวโน้มที่จะรายงานกําไรปกติเติบโตดีที่สุดในไตรมาส 4/67 (เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ) และกําไรปกติปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มอาหารจากธุรกิจสุกรในประเทศไทยที่ฟื้นตัวดีขึ้น (จากฐานต่ำในครึ่งปีแรก 2567) รวมถึงมี upside จากการซื้อกิจการผู้ประกอบธุรกิจไข่ในสิงคโปร์เสร็จภายในไตรมาส 1/68
ความเสี่ยงที่สําคัญ: ราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอจากกําลังซื้อที่เปราะบางและอุปทานที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนอาหารสัตว์สูง และเงินบาทแข็งค่า ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สําคัญ คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการขยะและน้ำ (E) สวัสดิภาพของลูกค้า การบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัย (S)