รีเซต

ลุ้นวันนี้ ครม.เคาะมาตรการใหม่-ยืดมาตรการเดิมสู้พิษน้ำมันแพง รถทัวร์แบกไม่ไหวหยุดวิ่ง 80%

ลุ้นวันนี้ ครม.เคาะมาตรการใหม่-ยืดมาตรการเดิมสู้พิษน้ำมันแพง รถทัวร์แบกไม่ไหวหยุดวิ่ง 80%
มติชน
21 มิถุนายน 2565 ( 09:18 )
36
ลุ้นวันนี้ ครม.เคาะมาตรการใหม่-ยืดมาตรการเดิมสู้พิษน้ำมันแพง รถทัวร์แบกไม่ไหวหยุดวิ่ง 80%

วันที่ 21 มิถุนายน รอลุ้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ที่จะมีการพิจารณามาตรการชุดใหม่ และต่ออายุมาตรการเดิมเพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะราคาน้ำมันแพง

 

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรียกประชุมหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ทั้งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ พร้อมผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานต่างๆ เพื่อหารือมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนรอบใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานปรับสูงขึ้น โดยได้ข้อสรุปถึงมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือเพิ่มเติม จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติในวันที่ 21 มิถุนายน เพื่อให้ทันการประกาศใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้

 

ทั้งนี้ มาตรการที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ได้แก่ 1.เพิ่มเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อแก๊สหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน จำนวน 3.6 ล้านคน 2.ให้ส่วนลดซื้อแก๊สหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.ช่วยค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 4.ตรึงราคาขายก๊าซเอ็นจีวี 15.59 บาทต่อกิโลกรัม 5.แท็กซี่มิเตอร์ โครงการลมหายใจเดียวกัน ซื้อก๊าซแอลพีจี 13.62 บาทต่อกิโลกรัม

 

ขณะที่นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการขนส่งมีมติว่าไม่สามารถประกอบการเดินรถได้ตามปกติ เพราะต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 1,600 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร คาดว่าสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับราคาขึ้นเป็น 38 บาทต่อลิตร แต่เพื่อประคับประคองธุรกิจไม่ให้ต้องแบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการขนส่งและบริษัทรถร่วมจึงมีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป จากการเดินรถ 100% เช่น มีรถโดยสาร 100 เที่ยววิ่งต่อวัน จะลดเหลือ 20 เที่ยววิ่งต่อวัน เบื้องต้นแจ้งมาแล้ว 27 บริษัทที่ลดเที่ยววิ่ง จำนวน 143 เส้นทางทั่วประเทศ อาทิ บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด บริษัท 407 พัฒนา จำกัด บริษัท แอร์โคราชพัฒนา และบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด

 

นายพิเชษฐ์กล่าวว่า หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐคงต้องหยุดวิ่งทุกเส้นทางต่อไป แต่หากได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เคยเสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร จากปัจจุบันราคาดีเซลอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร ขอปรับขึ้นเป็น 59 สตางค์ต่อกิโลเมตร (กม.) จากเดิมที่เก็บอยู่ที่ 53 สตางค์ต่อ กม. เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการเดินรถ เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มแบกภาระต้นทุนค่าน้ำมันไม่ไหวแล้ว และข้อเสนอของรัฐที่มีแนวทางการช่วยเหลือ ในลักษณะคูปองส่วนลดราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตร มองว่าไม่ครอบคลุมกับราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นสูงอยู่ในขณะนี้ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารมากกว่า แต่ถ้าราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงก็จะมีการปรับราคาค่าโดยสารลง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนต่อไป

 

นายพิเชษฐ์กล่าวว่า สถานการณ์รถโดยสารในปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 20,000 คันทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้หยุดเดินรถแล้วประมาณ 40% เพราะทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ขณะเดียวกันจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 40-50% หรือเฉลี่ยประมาณ 17-18 คนต่อคัน โดยใช้บริการเฉพาะช่วงเช้า-เย็นเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง