จับตา! ทรัมป์อาจประกาศใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ฉุกเฉินสัปดาห์นี้

วันนี้ (28 ต.ค.63) ในเวลานี้คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้เตรียมประกาศให้มีการอนุมัติฉุกเฉินวัคซีนต้านโควิด-19 จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ รวมถึงจะทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎบางอย่างภายในโครงการประกันสุขภาพ Medicare และ Medicaid ที่จะรวมวัคซีนต้านโควิด-19 เข้าไปในทั้ง 2 โครงการนี้ด้วย

ซึ่งปัจจุบัน โครงการสุขภาพของรัฐบาลกลางนี้ จะไม่สามารถจ่ายค่ายา หรือวัคซีน ที่ทาง FDA ทำการประกาศใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ ทำให้คณะทำงานของทรัมป์ต้องพยายามกันมาหลายสัปดาห์แล้วที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในโครงการ Medicare และ Medicaid ได้รับวัคซีนฟรี ๆ โดยบอกว่า กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อจะมั่นใจว่าไม่มีชาวอเมริกันคนไหนที่จะต้องจ่ายค่าวัคซีน 

แต่ขณะเดียวกันบรรดาผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขกลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าวัคซีนไม่น่าจะอนุมัติได้ก่อนวันเลือกตั้ง แต่นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์กำลังทำทุกวิถีทางที่จะทำให้วัคซีนได้รับการอนุมัติให้ได้ เพื่อให้เขาชนะเลือกตั้งอีกสมัย 

ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า ทรัมป์จะประกาศด้วยตัวเองเลยหรือไม่ เรื่องของการเปลี่ยนกฎใหม่นี้ เพื่อใช้ medicare , medicaid ก่อนเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน 

ไม่เพียงเท่านี้ เวปไซต์ Politico ยังรายงานด้วยว่า คณะทำงานของทรัามป์วางแผนที่จะเพิ่มนโยบายที่เกี่ยวกับโควิด19 เช่น ให้มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้ป่วยในโครงการ Medicaid ที่จะสามารถเข้ารับการรักษาจากโควิด19 

แต่ในประเด็นนี้ ทางศูนย์ให้บริการ Medicare, Medicaid ยังไม่ออกมาเปิดเผยว่ามีแผนการอย่างไรในเรื่องงบประมาณ ที่จะมั่นใจว่ามีชาวอเมริกันราว 120 ล้านคน ได้รับวัคซีนผ่านโครงการทั้งสองนี้ ซึ่งขณะนี้มี 2 วัคซีนพร้อมอนุมัติ โดยมีผู้พัฒนาวัคซีนโควิด19 อย่างน้อย 2 เจ้า ที่ระบุว่า เขาพร้อมที่จะให้มีการประกาศอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินก่อนสิ้นปี 

สำหรับโครงการสุขภาพของสหรัฐฯ หลัก ๆ จะมีอยู่ 2 อย่าง ได้แก่ 

- Medicare คือ โครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่มีให้ผู้สูงวัย คล้ายประกันสังคมบ้านเรา คือ ทำงานอยู่ จะถูกหักเบี้ยประกัน แต่ใช้สิทธิ์ได้ตอนเกษียณอายุ 

- Medicaid คือ โครงการสำหรับช่วยคนยากจนในระดับใต้เส้นความยากจน สมัยโอบามาแคร์ คือ ชาวอเมริกัน 20-30% ไม่มีประกัน เพราะไม่มีบริษัทจัดให้ ไม่มีเงินซื้อ แต่ก็จนไม่พอที่จะไปรับ Medicaid 

โอบามา จึงผลักดันโอบามาแคร์สำเร็จ คือใช้กลไกทางกฎหมายภาษีไปสร้างช่องทางบัคับให้คนต้องซื้อประกันสุขภาพของเอกชน ถ้าไม่ซื้อต้องถูกปรับ หรือเสียภาษีเพิ่ม บังคับให้นายจ้างต้องจัดประกันสุขภาพให้ลูกจ้าง บ.ประกันให้จัดเบี้ยในราคาที่เหมาะสม ห้ามกีดกัน ห้ามปฏิเสธ ไม่รับคนป่วยเป็นลูกค้าประกัน 

ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นข้อถกเถียงอย่างหนักในสังคม ทั้งฝั่งเสรีนิยม ที่มองว่า ทุกคนมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะมีประกันหรือไม่ และฝั่งอนุรักษ์นิยม ของรีพับลิกัน ซึ่งมีฝั่งนายทุนหนุน ไม่ชอบ เพราะมองว่าการที่บริษัทต้องจัดสวัสดิการให้พนักงานเป็นการเพิ่มต้นทุนอย่างหนัก และภาครัฐต้องแบกภาระมากขึ้น งบประมาณขาดดุลเพิ่ม ทำให้ฝั่งรีพับลิกันโจมตีเรื่องนี้อย่างหนัก