รีเซต

สรุป 10 ประเด็น "บอสพอล" กับเส้นทางธุรกิจ "ดิไอคอน กรุ๊ป"

สรุป 10 ประเด็น "บอสพอล" กับเส้นทางธุรกิจ "ดิไอคอน กรุ๊ป"
TNN ช่อง16
14 ตุลาคม 2567 ( 16:27 )
49
สรุป 10 ประเด็น "บอสพอล" กับเส้นทางธุรกิจ "ดิไอคอน กรุ๊ป"


เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2567 "บอสพอล" หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ "ดิไอคอน กรุ๊ป" ได้ออกรายการ "โหนกระแส" เป็นครั้งแรก หลังจากที่มีข่าวผู้เสียหายจากธุรกิจขายตรงถูกหลอกลวงเป็นจำนวนมาก โดยมีการร้องเรียนมากกว่า 700 คน และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 260 ล้านบาท ซึ่งบอสพอลได้ให้ข้อมูลหลายประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้


1. ความรู้สึกและเหตุผลที่ออกรายการ

บอสพอล เปิดใจว่ารู้สึกกลัวและไม่อยากมาออกรายการ แต่ต้องการมาพูดความจริงตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยตลอดรายการเขามีน้ำตาคลอและร้องไห้ตลอดเวลา


2. ความรู้สึกต่อผู้เสียหายที่เสียชีวิต

เมื่อได้ฟังเรื่องราวของผู้เสียหายที่เสียชีวิตจากการเป็นหนี้สินและปัญหาสุขภาพ บอสพอลกล่าวว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนและรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น


3. การดำเนินธุรกิจขายตรง

บอสพอล อธิบายว่า ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจการตลาดแบบตรงที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และมีตัวแทนจำหน่ายสินค้า ในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัท มีผู้สนใจเข้ามาเป็นบอสประมาณ 20 คน แต่หลังจากคัดเลือกแล้วเหลือบอสที่ทำงานจริง 10 คน โดยมีโครงสร้างการบริหารแบ่งเป็นระดับบอส 10 คน และระดับแม่ข่าย


4. ระบบการจ่ายผลตอบแทน

ผลตอบแทนของบอสและแม่ข่ายจะได้รับตามยอดขายในแต่ละเดือน ใครขายได้มากก็จะได้รับผลตอบแทนมาก จึงอาจทำให้บางคนร่ำรวยขึ้นมาได้จากความสำเร็จในการขายสินค้า


5. การอบรมและการตลาดของตัวแทน

บอสพอล ให้ข้อมูลว่า การอบรมการตลาดและการโปรโมทเป็นเรื่องที่ตัวแทนแต่ละคนไปออกแบบและดำเนินการเอง โดยตนเองมีการตรวจสอบเนื้อหาคอร์สอบรมของแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่จะสอนเทคนิคการตลาดออนไลน์ทั่วไป และมีการเสนอขายสินค้าของบริษัทร่วมด้วย


6. บทบาทของดาราและพรีเซนเตอร์

ดาราที่มีข่าวเกี่ยวข้องนั้น บอสพอล ยืนยันว่าจ้างมาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเป็นผู้บริหารหรือชักชวนคนมาลงทุนแต่อย่างใด โดยมีการทำสัญญาจ้างที่แตกต่างกันไปตามจำนวนสินค้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ อย่างไรก็ตาม ในบางงานอีเว้นท์ ดาราบางคนอาจมีการพูดแนะนำสินค้าหรือชื่นชมบริษัทตามที่บอสพอลขอร้อง แต่ไม่ใช่การชักชวนให้มาลงทุน


7. กรณีเสียงคลิปเทวดาใน สคบ.

บอสพอล ยอมรับว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของตนเองจริง แต่เป็นเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนที่ถูกนักร้องเรียกเงินข่มขู่ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน โดยปกติแล้ว จำนวนเงินที่ถูกเรียกสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท หรือ 1 ล้านบาท แต่ไม่เคยสูงถึง 30 ล้านบาทอย่างที่ปรากฎในคลิป


8. กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนักการเมือง

บอสพอล ยอมรับว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของตนเองจริง แต่เป็นเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนที่ถูกนักร้องเรียกเงินข่มขู่ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน


9. ยอมรับยอมแพ้และจะรับผิดชอบ 

บอสพอล กล่าวว่าตนเองยอมแพ้และไม่รู้ว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่ แต่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขและชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น จนถึงบาทสุดท้ายในชีวิต แม้จะต้องถูกดำเนินคดีหรืออายัดทรัพย์สินก็ตาม


10. การเยียวยาผู้เสียหาย

บอสพอล ระบุว่าจะตั้งศูนย์เยียวยาผู้เสียหายโดยจะเปิดให้ผู้เสียหายมาแจ้งเรื่องและบริษัทจะดำเนินการชดเชยตามความเหมาะสมต่อไป


การออกรายการครั้งนี้ของบอสพอล ผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป ถือเป็นการเผชิญหน้ากับกระแสข่าวเชิงลบครั้งใหญ่ ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาร้องเรียน แม้เขาจะให้ข้อมูลหลายประเด็นที่สวนทางกับข้อกล่าวหา แต่ก็ยอมรับผิดและพร้อมจะเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังต้องติดตามการสอบสวนและพิสูจน์ข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ข้อมูล / ภาพ โหนกระแส 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง