รีเซต

PDG กำไร Q2 โตแรง 439% รุกฐานขวดยาปั๊มยอด 30 ล.

PDG กำไร Q2 โตแรง 439% รุกฐานขวดยาปั๊มยอด 30 ล.
ทันหุ้น
8 สิงหาคม 2567 ( 22:36 )
13
PDG กำไร Q2 โตแรง 439% รุกฐานขวดยาปั๊มยอด 30 ล.

#PDG #ทันหุ้น – PDG กำไรโค้งสองทะยาน 439% รับปัจจัยบวกต้นทุนผลิต ค่าพลังงานลด หนุนมาร์จิ้นพุ่ง ฟากบิ๊กบอส “ธงชัย  ตันสุทัตต์” สั่งลุยเจาะฐานบรรจุภัณฑ์ขวดยา ปักเป้ายอดขายแตะ 30 ล้านบาท ชี้ 6 เดือนแรกทำได้แล้ว 12 ล้านบาท มาร์จิ้นทะลุ 10%

 

นายธงชัย ตันสุทัตต์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด Polyethylene Terephthalate (ขวด PET) เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 ที่ 18.06 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 3.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 439.44% โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 22-23%

 

** รักษาฐานเดิม

ส่วนรายได้อยู่ที่ 164.52 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 169.65 ล้านบาท ลดลง 5.13 ล้านบาท หรือลดลง 3.02% เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังที่ลดลง อีกทั้งยอดขายจากตลาดน้ำดื่มมีการปรับตัวลดลง

 

สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทจะพยายามขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยการหาลูกค้าใหม่ รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ โดยยอดขายหลักยังมาจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันพืช และน้ำดื่ม และล่าสุดบริษัทเริ่มจำหน่ายบรรจุภัณฑ์เข้าสู่กลุ่มยา เวชภัณฑ์ โดยครึ่งปีแรก 2567 บริษัททำยอดขายได้แล้วราว 11-12 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 ตั้งเป้ามียอดอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มยา เวชภัณฑ์มีมาร์จิ้นสูงกว่า 10% ซึ่งสูงกว่ากลุ่มน้ำดื่ม บริษัทจะเดินหน้ารุกฐานกลุ่มยา เวชภัณฑ์ให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อเพิ่มยอขายสินค้ากลุ่มให้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามบริษัทมองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ส่วนต้นทุนการผลิต อาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบริษัทจะจับตาดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หากมีนโยบายเข้ามาตามแผน คาดจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และจะส่งผลต่อธุรกิจผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ด้วยเช่นกัน

 

** ปรับโรงผลิต

สำหรับแผนการลงทุนใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทยังไม่มีแผน แต่จะมีการปรับปรุงโรงงานผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คาดจะใช้เงินลงทุนที่ 10-20 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังผลิตอยู่ที่ 60% และยังสามารถเพิ่มยอดขาย โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต

 

นายธงชัย  กล่าวต่อว่า ภาพรวมยอดขายปี 2567 บริษัทจะพยายามรักษาไว้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 634.41 ล้านบาท และจะพยายามรักษา Gross Profit Margin ไว้ที่ระดับ 21-22% ซึ่งหากดูตัวเลขแล้วอาจจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทประเมินต้นทุนในครึ่งปีหลัง 2567 จะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก

 

บริษัทคาดภาพเศรษฐกิจในประเทศจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 และจะทำให้การอุปโภคบริโภคฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และส่งผลดีมาต่อเนื่องในธุรกิจการผลิตและขายบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง