รีเซต

เปิดมุมมอง 2 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

เปิดมุมมอง 2 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้
ทันหุ้น
6 พฤษภาคม 2565 ( 09:31 )
185
เปิดมุมมอง 2 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะปรับตัวลงต่อเนื่องทดสอบแนวรับ 1,630+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกมาดิ่งแรงเฉลี่ย 3-5% โดยตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นว่า FED จะคุมเงินเฟ้อได้เร็วและเริ่มไม่มั่นใจว่า FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน มิ.ย. ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าถือครองดอลลาร์อีกครั้ง ภาพรวม SET Index ที่พักตัวในเดือนนี้สอดคล้องกับมุมมองของเรา 

 

อย่างไรก็ตามมองเป็นจังหวะ “สะสมหุ้นพื้นฐาน” ในกรอบ 1,600-1,630+- จุด โดยยังเชื่อมั่นว่าระยะกลาง-ยาวจะได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นต่อเนื่องตามการ Reopening โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22  ซึ่งจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ยังคงอยู่ในทิศทางไหลเข้า กลุ่มที่ชอบยังเป็น Value Domestic และ Reopening Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับในอดีตก่อน COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกลงทุนหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22-2Q22 แข็งแกร่งและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน 

 

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play 

หุ้นเด่นเดือนพ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

 

หุ้นเด่นวันนี้ : SNC

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเบื้องต้น 25 บาท

• ระยะสั้นคาดกำไร 1H22 เติบโตแข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y จากอานิสงส์ของ High Season ฤดูร้อนเนื่องจากรายได้สัดส่วนราว 60% อิงกับกลุ่มเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้การได้ลูกค้า OEM รายหลักเพิ่ม 2 รายในปีก่อนเป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโต 

• ปัจจุบัน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 2022-2023 โตเฉลี่ย +20% CAGR ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 10 เท่า โดยหากดูจากในอดีตช่วงที่กำไรของ SNC เติบโตดีจะเทรด PER ราว 12-15 เท่า  

• แนวรับ 19.80 บาท แนวต้าน 21.60//22 บาท

 

**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน)  คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลงต่อ ยูเครน-ดอกเบี้ย-เศรษฐกิจ ลบต่อตลาด และขาดปัจจัยบวกหนุน ตลาดหุ้นทั่วโลกดูไม่ค่อยจะดีนัก ตัวแปรต่าง ๆ ยังกดดันตลาด สถานการณ์ยูเครน-รัสเซียไม่ดีขึ้น และดูเหมือนจะเริ่มแย่ลง ความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ในการประชุม FOMC ครั้งต่อไป ที่ +0.75% ยังอยู่ในตลาด

 

ตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตามอง คือ การระบาด Covid-19 ของจีน ว่าจะมีการใช้มาตรการ Zero Covid  ต่อไปหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ประธานาธิบดี สี จื้นผิง อาจจะต้องมีการประเมินในเรื่องนี้ มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจีนผูกกับไทยในทางเศรษฐกิจ วันนี้ เรามองเรื่องนี้ในทางลบ ทำให้วันนี้ เราปรับหุ้นที่อิงกับจีนออกจากพอร์ตหุ้นแนะนำ

 

การเมืองของไทยเริ่มจะไม่ค่อยดี ความเชื่อมั่น และเสียงของรัฐบาลแย่ลงเรื่อย ๆ ในมุมมองการเมือง เรามองว่าหากมีการยุบสภาเร็วขึ้น จะลบต่อตลาด

 

จับตาดู ธปท. ต่อปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เริ่มมีการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อต้านเงินเฟ้อ(ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว) เรามองว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อตลาด 

 

หุ้นส่งงบวันนี้ GPSC (Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 22 ที่ 6.92 พันลบ.) และ SYNEX (KTBST ประเมินกำไรสุทธิ 1Q22 ที่ 199 ล้านบาท +8% YoY, -26% QoQ)

 

หุ้นใหญ่ขึ้น XD วันนี้ ได้แก่ BBIK(@0.375), IVL(@0.25), SAPPE(@1.10)

 

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ และการประชุม ศบค. ในการชงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว

 

ตลาดสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก ถูกกดดันต่อหลังนักลงทุนไม่เชื่อว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแต่ไปแค่ 0.50% บวกกับสถานการณ์ ยูเครน- covid จีน ที่ยังไม่ดีขึ้น คำแนะนำโดยรวม คือ ชะลอการลงทุน ถือเงินสดเพิ่ม รอซื้อหุ้นกลับเมื่อตลาดพลิกตัวกลับ

 

หุ้นที่เรามองว่ามีความเสี่ยง หากตลาดกังวลว่า เงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย  คือกลุ่ม สินค้าโภคภัณฑ์ (ไม่รวมหุ้นที่มีการเก็งงบว่าจะออกมาดี) ธนาคาร ส่งออก

 

หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ WICE, SCB, NER, JMART* ออก และนำ BH เข้ามาใหม่ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BH(10%), NYT*(10%), CPN(10%), TIDLOR(10%), TQM(10%)

 

Strategy Stock Pick

BH*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 168 บาท) “หุ้น รพ. สายประเทศ ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

• ประเมินรายได้จากกิจการ รพ. ปี 22 ฟื้นตัวเด่น หนุนด้วยผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง ที่ทยอยเดินทางเข้าไทยต่อเนื่อง คาด 2H22 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

• หลังจบเทศกาลรอมฏอน (ถือศีลอด) คาดการเดินทางระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่อ่อนจะหนุนรายได้

• Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 เฉลี่ยที่ 2.74 พัน ลบ. และ 3.72 พัน ลบ. +125%YoY, +35%YoY ตามลำดับ

 

Technical: PSL, SAAM

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง