ประวัติ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระธรรมวชิรานุวัตร ผู้มากด้วยสมณศักดิ์

เจาะลึกประวัติ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าคณะภาค 14 ผู้มีบทบาทสำคัญในวงการสงฆ์ไทย ทั้งด้านการศึกษา ศาสนา และการบริหารคณะสงฆ์
ประวัติ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระธรรมวชิรานุวัตร
พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของคณะสงฆ์ไทย ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 รวมถึงยังดำรงตำแหน่งรองแม่กองธรรมสนามหลวง ประจำหนกลาง โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมและการบริหารกิจการคณะสงฆ์ระดับภาค
ชีวประวัติและการบรรพชา
นามเดิมของพระธรรมวชิรานุวัตร คือ แย้ม อินทร์กรุงเก่า เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ที่บ้านคลองรางไทร ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของนายหยวก อินทร์กรุงเก่า และนางทวี ศรีบุญรอด
ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ขณะมีอายุ 12 ปี ณ วัดไร่ขิง โดยมีพระปัญญาวิมลมุนี (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) เป็นพระอุปัชฌาย์ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2519 ได้รับฉายาว่า “กิตฺตินฺธโร”
การศึกษาและวิทยฐานะ
พระธรรมวชิรานุวัตรได้รับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดรางกำหยาด
- สอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 3 ประโยค จากสำนักศาสนศึกษาวัดไร่ขิง
รางวัลและเกียรติคุณ
จากบทบาทและผลงานด้านพระศาสนา ท่านได้รับการยกย่องด้วยรางวัลและปริญญากิตติมศักดิ์หลายรายการ อาทิ
- รางวัลเสาเสมาธรรมจักร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
- ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยศิลปากร
ลำดับสมณศักดิ์
พระธรรมวชิรานุวัตรได้รับการแต่งตั้งในสมณศักดิ์หลายระดับตลอดชีวิตสมณเพศ ได้แก่
- พ.ศ. 2533 เป็นพระครูวินัยธร
- พ.ศ. 2549 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์
- พ.ศ. 2558 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพศาสนาภิบาล
- พ.ศ. 2565 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมวชิรานุวัตร
กรณีข่าวล่าสุด
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พระธรรมวชิรานุวัตร ได้เดินทางเข้าพบตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิงมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยมีทนายความและคณะพระผู้ติดตามร่วมเดินทางด้วย