โผล่อีก! อิสราเอล พบโควิด-19 สายพันธุ์ปริศนา
วันนี้( 31 มี.ค.64) กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล รายงานการค้นพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก โดยเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ดังกล่าว ถูกตรวจพบระหว่างการศึกษาของห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยากลางของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์การแพทย์ชีบา ทางตอนกลางของอิสราเอล การศึกษาดังกล่าวตรวจสอบและสรุปรวมเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ที่ปรากฏในอิสราเอลนับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ถึงเดือนมกราคม 2021
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีการตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักใน 181 ตัวอย่างที่ถูกเก็บรวบรวมครั้งแรก เมื่อเดือนกรกฏาคมปีก่อนและไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ตรวจพบใหม่ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดเป็นวงกว้างหรือทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 10,255 คน มากที่สุดในรอบ 3 เดือน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศพุ่งไปเกือบ 1.9 ล้านคน สูงที่สุดในตะวันออกกลางและมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 62,569 คน
ทางการอิหร่านอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อที่น่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามมาหลังจากนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอก 4 ในประเทศ ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคกลาง เนื่องจากชาวอิหร่านจำนวนมากเพิ่งร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลเนารูซ หรือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวเปอร์เซียในอิหร่าน ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมและจะดำเนินไปเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยถึงแม้เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการห้ามผู้คนขับรถในช่วงเวลากลางคืนในหลายเมืองเพื่อป้องกันการเดินทางและการเคลื่อนย้ายของผู้คน รวมถึงแนะนำให้ประชาชนฉลองเทศกาลเนารูซร่วมกับครอบครัวภายในบ้าน แต่ชาวอิหร่านจำนวนมากก็ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ และออกเดินทางท่องเที่ยวไปต่างเมือง และในหลายเมืองจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดงและสีส้ม ซึ่งหมายถึงเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดก็ตาม
รัฐบาลอิหร่านได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ของ Sputnik V จากรัสเซียแล้ว 400,000 โดสจากที่สั่งไปทั้งหมด 2 ล้านโดส รวมถึงได้วัคซีน Sinopharm ของจีนแล้ว 250,000 โดส และวัคซีนบางส่วนจากทั้งหมด 500,000 โดสของ COVAXIN จากอินเดียก็ถูกส่งมาถึงอิหร่านแล้ว นอกจากนี้ อิหร่านยังอยู่ระหว่างรอรับวัคซีนของ AstraZeneca อีก 4.2 ล้านโดส ขณะนี้กำลังเร่งฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ก่อนฉีดให้ประชาชนทั่วไปภายหลัง