รีเซต

เจาะหุ้นกลุ่ม JMART พื้นฐานยังแกร่ง ราคาลงเป็นจังหวะเก็บสะสม

เจาะหุ้นกลุ่ม JMART พื้นฐานยังแกร่ง ราคาลงเป็นจังหวะเก็บสะสม
ทันหุ้น
17 กรกฎาคม 2565 ( 12:25 )
263

#ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มเจมาร์ท มีการปรับฐานแรงเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม โดยหุ้น JMART ปรับลง 30%, JMT ปรับลง 21%, SINGER ปรับลง 36% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมปรับลง 9% โดยมองว่าหุ้นที่ปรับลง เพราะได้รับ Sentiment ลบจากสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงประเด็นที่ สคบ. หารือเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ แต่ในในเชิงพื้นฐานแล้วฝ่ายวิจัยโนมูระพัฒนสิน ยังมองว่าหุ้นทั้งกุ่มได้รับผลกระทบที่จำกัด ดังนั้นโดยรวมจึงยังคงแนะนำซื้อ 

 

ฝ่ายวิจัย แนะนำซื้อหุ้น JMT ให้ราคาเป้าหมาย 105 บาทต่อหุ้น มองพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ด้านรายได้ยังมี upside ที่เปิดกว้างหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นของ NPL ในระบบภายหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ภาคบังคับ โดยฝ่ายวิจัยคาด NPL ratio จะปรับขึ้นราว 7bps มาอยู่ที่ 4.07% ในไตรมาส 2/65 จาก 4.00% ในไตรมาส 1/65 และเมื่อเทียบกับหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีแล้วยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยนอกเหนือจากโอกาสการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JM AMC กับธนาคารอื่นๆ แล้วมองว่าเป้าหมายการจัดซื้อทรัพย์เดิมของ JMT ที่ 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2565-2566 อยู่ในระดับที่มีความเป็นไปได้สูง และมีโอกาสที่จะทำได้ดีกว่าเป้าหมาย

 

ในด้านต้นทุน ตลาดกังวลความกดดันจากแนวโน้ม Bond yield ขาขึ้น อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่า JMT จะได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากในปี 2564 บริษัทได้มีการระดมทุนจากกลุ่ม BTS และผู้ถือหุ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรองรับการเติบโตของบริษัทในแง่ของการจัดหาหนี้ด้อยคุณภาพจนถึงปี 2566 ลดภาระต้นทุนทางการเงิน 

 

ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 คาดว่าจะมีกำไรอยู่ที่ 442 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน 

 

ด้าน SINGER แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 58 บาทต่อหุ้น มองว่าการกำหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ใหม่ของ สคบ. จะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของ SINGER แต่อย่างใด เพราะลูกค้าหลักของ SINGER จะเป็นรถบรรทุก ในขณะที่ด้านต้นทุน บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนจาก BTS ราว 1 หมื่นล้านบาทเช่นกัน นำไปจ่ายคืนหุ้นกู้และใช้สำหรับขยายพอร์ตสินเชื่อปี 2565-2566 ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 พันล้านบาท ปัจจุบัน funding เกือบทั้งหมดมาจากหุ้นกู้ระยะยาวทั้งสิ้น ไม่มีเงินกู้จากสถาบันการเงิน ความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่ำ 

 

ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 คาดว่าจะมีกำไรที่ 255 ล้านบาท ทำนิวไฮ โดยเติบโต 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 18% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยจะขยายตัวตามฐานพอร์ต 

 

และบริษัทยังมีแผนที่จะ spin-off บริษัทลูกซึ่งทำธุรกิจสินเชื่อทุกประเภท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะหนุนเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจในปี2566-2567 

 

ส่วน JMART แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 63 บาทต่อหุ้น โดยหากดูธุรกิจเจ-โมบาย ยังสามารถสร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 1/65 โดยเติบโต 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเดินหน้าเพิ่ม line-up สินค้าและวางเป้าหมายขยายกว่า 100 สาขา จากปัจจจุบันราว 290 สาขา บวกกับการใช้ synergy ร่วมกับ SINGER ทำหน้าร้านร่วมกันประหยัดต้นทุน และการขายสินค้าผ่อน 

 

นอกจากนี้ JMART ยังมีการขยายพันธมิตร คาดว่าจะมีการประกาศอีกหลายแห่งที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตร โดยผลดำเนินงานของ JMART สัดส่วนกำไรหลักยังมาจากบริษัทลูก ซึ่งในปี 2565 คาดว่า 80% มาจาก JMT และ SINGER ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 ของ JMART คาดว่าจะโตต่อเนื่อง อยู่ที่ 362 ล้านบาท ทำนิวไฮ ตามบริษัทลูก แม้ยอดขาย mobile และ gadget คาดทรงตัวตามฤดูกาล

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง