รีเซต

มองมุมกฎหมาย OPPO-Realme จากแอปเงินกู้สู่วิกฤตความเชื่อมั่น

มองมุมกฎหมาย OPPO-Realme จากแอปเงินกู้สู่วิกฤตความเชื่อมั่น
TNN ช่อง16
15 มกราคม 2568 ( 14:50 )
22

เจาะลึกคดี OPPO-Realme จากแอปเงินกู้สู่วิกฤตความเชื่อมั่น


การแอบแฝงแอปพลิเคชันเงินกู้ "สินเชื่อความสุข" และ "Fineasy" ในระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือ OPPO และ Realme สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการสมาร์ทโฟนไทย เมื่อพบว่าการกระทำดังกล่าวละเมิดกฎหมายหลายฉบับ และส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้าง


พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ตอท.) และพันตำรวจเอก รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผู้กำกับการสอบสวน บก.สอท.1 ได้ร่วมแถลงผลการสืบสวนว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวถูกฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ ColorOS ที่พัฒนาโดยบริษัทเอง


จากการตรวจสอบของทีมสืบสวน พบว่าการกระทำนี้เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในหลายมาตรา โดยเฉพาะมาตรา 13 ฐานจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งเตรียมเรียกทั้งสองบริษัทมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากการชี้แจงครั้งแรกยังไม่มีความชัดเจนในหลายประเด็น


นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแล สคบ. ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ และการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้อีก


ผลกระทบจากกรณีนี้ไม่เพียงส่งผลต่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อธุรกิจของทั้งสองแบรนด์อย่างหนัก โดย OPPO ต้องยกเลิกงานเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่กะทันหัน และต้องระงับการจำหน่ายสินค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด


ทั้งสองบริษัทได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยประกาศระงับการให้บริการแอปพลิเคชัน Fineasy ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2568 หยุดจำหน่ายโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหา และเตรียมปล่อยอัปเดต OTA เพื่อถอนการติดตั้งแอปในวันที่ 16 มกราคม 2568


ด้านสภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายจากแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อนรวมแล้วเกือบ 2,000 ราย โดยพบการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย ทางสภาองค์กรของผู้บริโภคพร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เสียหายทุกราย 


นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก สคบ. เผยว่า การสอบสวนยังต้องขยายผลไปถึงผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงการตรวจสอบว่าบริษัทตัวแทนในประเทศไทยมีส่วนรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์จากแอปพลิเคชันเหล่านี้หรือไม่


กรณีนี้ยังสะท้อนให้เห็นช่องว่างของกฎหมายในการกำกับดูแลซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งพัฒนากฎหมายและมาตรการกำกับดูแลให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี


พลตำรวจโท ไตรรงค์ ย้ำว่า นอกจากการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว สิ่งสำคัญคือการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภค และการพัฒนากลไกป้องกันการละเมิดสิทธิในรูปแบบใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต



ภาพ Freepik 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง