เปิดจีนเข้าไทย ล็อตแรก20ต.ค. โรงแรมเริ่มฟื้น

ทันหุ้น – สู้โควิด –เล็งเปิดรับจีนเข้าไทยล็อตแรก 20 ต.ค.นี้ รัฐบาลย้ำคุมเข้มดูแลความปลอดภัย เน้นผ่อนคลายเป็นระยะ นักวิเคราะห์คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาคึกคักช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ยังให้ลงทุนหุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวชู CENTEL-MINT-AAV เด่น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ควบคู่กับการป้องกันโรค และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในประเทศ ทั้งนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Thailand Plus รองรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อบันทึกการเดินทางประจำตัวของนักท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันคนในประเทศก็จะยิ่งมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วน เพราะเรามีระบบติดตาม หลังจากผ่านการคัดกรองและกักตัว 14 วันแล้ว

*ต่างชาติมาแน่ต.ค.นี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนชุดแรก 120 คน เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยด้วย Special Tourist Visa (STV) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2563 โดยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเข้ากักตัวในพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน จากนั้นคณะที่ 2 จะมาถึงในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยจะเดินทางจากมลฑลกว่างโจว ประมาณ 100 คนบินตรงสู่จังหวัดภูเก็ต

พร้อมกันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวีย ประเทศเดนมาร์ก กลุ่มหนึ่งแสดงความประสงค์จะเดินทางมา โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนทางเอกสาร คาดว่าจะเดินทางมาถึงในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้หากในการประเมินผลการดำเนินงาน STV1 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ จะพิจารณาขยับขั้นตอนการเปิดประเทศจาก STV1 ไปสู่ STV2 กำหนดให้กักตัวนักท่องเที่ยวในห้องพักส่วนตัว 7 วัน และกักตัวในบริเวณโรงแรมอีก 7 วัน และจะประเมินผลเพื่อพิจารณาผ่อนคลายตามความเหมาะสม

*หนุนจิตวิทยาระยะสั้น

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นให้กับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม เนื่องจากการดำเนินการของรัฐบาลยังสอดคล้องกับประมาณการของธปท. ที่คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2564 ที่ 16 ล้านคน สะท้อนว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะฟื้นตัวอย่างมีนัยะสำคัญช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้มองว่าปัจจัยพื้นฐานของกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ยังมีความเสี่ยงจากภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการรักษาความสะอาด, เงินเดือนพนักงาน, จำนวนนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงความชัดเจนของมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐบาล

*CENTEL-MINT-AAV เด่น

เบื้องต้นจึงแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” หุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวอาทิ CENTEL ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารราว 60% ของรายได้รวม จึงมีส่วนได้รับประโยชน์จากมาตราการ “ช้อปดีมีคืน” ร่วมกับประโยชน์จาก TRAFFIC ในศูนย์การค้าที่จะเพิ่มขึ้น ขณะที่สถานะการเงินก็แข็.แกร่งที่สุดในกลุ่ม ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 22 บาท

เช่นเดียวกับ MINT ที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหาร และธุรกิจค้าปลีก แต่เนื่องจากโครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่มาจากโรงแรมในยุโรปที่ยังเผชิญปัญหาโควิด-19 กดดันการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจึงแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 22 บาท

และแนะนำ “ซื้อ” AAV ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 2.06 บาท เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อธุรกิจในระยะกลาง-ยาวมากขึ้น จากโครงสร้างอุตสาหกรรมที่คู่แข่งมีแนวโน้มลดลง, การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้กรณีที่ไม่ได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ AAV มีแนวโน้มที่จะเพิ่มทุน 1.2 บาทต่อหุ้น (คำนวญจากวงเงินที่ขอ 4.5 พันล้านบาท) และหากไม่เพิ่มทุน AAV ก็อาจพิจารณาปรับลดพนักงานหรือลดเครื่องบินให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง