ฟลอริดาทุบสถิติติดเชื้อโควิด-19สูงสุด วันเดียวพุ่ง 1 หมื่นคน
วันนี้ ( 4 ก.ค. 63 )รัฐฟลอริดาทำลายสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันสูงที่สุดกว่า 10,000 คนในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือว่ามากที่สุดในวันเดียวตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาด โดยการระบาดของไวรัสในรัฐเท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดาและแอริโซนา ช่วยดันยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐให้พุ่งสูงขึ้นในอัตราที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การระบาดในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีประชากร 21 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 168 เปอร์เซ็นต์ หรือมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 95,000 คน และเพื่อควบคุมการระบาด รัฐฟลอริดาสั่งปิดบาร์และชายหาดบางแห่ง แต่ผู้ว่าการรัฐต่อต้านข้อกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทั่วรัฐ หรือกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์อีก
ก่อนหน้านี้ มีเพียงรัฐเดียวเท่านั้นที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวสูงกว่า 10,000 คน คือนิวยอร์ก ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 12,847 คน เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา 3 สัปดาห์หลังรัฐบาลใช้มาตรการล็อคดาวน์อย่างเข้มข้นปิดธุรกิจทั้งหมดขณะเดียวกัน นิวยอร์กก็ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ต่าง ๆ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และสั่งให้ประชาชนที่เดินทางจาก 16 รัฐที่มีความเสี่ยงการระบาดสูง กักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์เมื่อเดินทางเข้านิวยอร์ก
ทั้งนี้นิวยอร์ก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดในสหรัฐ พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดทั่วประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางมุ่งหน้าสู่ภูเขารัชมอร์ รัฐเซาท์ดาโกตา เมื่อวันศุกร์ เพื่อร่วมจุดดอกไม้ไฟฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดของชาติ โดยก่อนวันที่ 4 กรกฎาคม ทรัมป์จะปราศรัยใต้ร่มเงาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐผู้ยิ่งใหญ่ 4 คน ที่มีภาพใบหน้าแกะสลักอยู่บนหน้าผาของภูเขาแกรนิตรัชมอร์ คือ จอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, ทีโอดอร์ รูสเวลต์ และอับราฮัม ลินคอล์น
หนึ่งวันก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางมายังภูเขารัชมอร์ ก็มีชาวอเมริกันจำนวนมาก แสดงความเสียใจที่ไม่สามารถหาซื้อบัตรเพื่อเข้าร่วมชมการจุดดอกไม้ไฟฉลองวันชาติที่บริเวณภูเขาแห่งนี้ ทั้ง ๆ ที่ได้ออกนอกบ้านหลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์มานาน ซึ่งในปีนี้ ทรัมป์จะเข้าชมการจุดดอกไม้ไฟฉลองที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ ในเซาท์ดาโกตา
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline