รีเซต

คาดเด็ก 8 ขวบ โดนฉลามกัด ขณะลงเล่นน้ำหาดกมลา ภูเก็ต

คาดเด็ก 8 ขวบ โดนฉลามกัด ขณะลงเล่นน้ำหาดกมลา ภูเก็ต
TNN ช่อง16
3 พฤษภาคม 2565 ( 08:35 )
267

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 2 พ.ค.65 นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน จ.ภูเก็ต และนายเดวิด มาร์ติน ช่างภาพใต้น้ำและผู้เชี่ยวชาญฉลามชาวฝรั่งเศส

ได้เข้าเยี่ยมอาการ ด.ช.ลูกครึ่งไทย-ยูเครน อายุ 8 ปีที่ถูกสัตว์ในทะเลกัดขณะลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บ 

จากนั้นหน่วยกู้ชีพ อบต.กมลาได้นำส่งรักษาตัวที่ รพ.ป่าตอง ต่อมาได้นำส่งตัวต่อมารักษายัง รพ.กรุงเทพภูเก็ต และเข้ารับการรักษาในเวลาต่อมาที่ รพ.มิชชั่นภูเก็ต เบื้องแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลไปกว่า 30 เข็ม โดยเจ้าหน้าที่ได้เยี่ยมอาการและพูดคุยกับเด็กชายดังกล่าว โดยมีครอบครัวคอยดูแลอาการใกล้ชิด

นายพิเชษฐ์ กล่าวภายหลังการเยี่ยมอาการและพูดคุยกับเด็กที่บาดเจ็บว่า วันนี้ได้เข้าพบผู้ประสบเหตุที่ชายหาดกมลา อ.กะทู้ หน้า สภ.กมลา ห่างจากแนวชายหาดราว 100 เมตร ลึกไม่ถึง 1 เมตร 

โดยเด็กที่ได้รับบาดเจ็บเป็นลูกครึ่งไทย-ยูเครน คุณแม่เป็นชาวไทย ซึ่งไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยพักอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการช่วยเหลือเยียวยาในสิทธิ์ที่พึงจะได้ แต่เมื่อเป็นคนที่อยู่ในจังหวัด สิทธิ์นั้นก็ตกไป โดยคุณแม่ของเด็กเข้าใจเป็นอย่างดี ส่วนสัตว์ทะเลที่เข้าทำร้ายเด็กนั้น นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ที่วินิจฉัยได้ดีที่สุด

"จากนี้ไปจะต้องมีบีชการ์ดคอยกำกับดูแลการลงเล่นน้ำทะเลของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันจะต้องปักป้ายเตือนและหอคอยสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงที่ปลาชนิดนี้จะเข้ามาตามแนวชายฝั่ง และอาจจะมีการใช้โดรน แต่สุดท้ายวิธีการที่ดีที่สุดคือ ป้ายเตือนภัยบอกนักท่องเที่ยว" รองผวจ.ภูเก็ต ระบุ


ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กล่าวถึงสัตว์ทะเลที่ทำร้ายเด็กจนได้รับบาดเจ็บในกรณีนี้ว่า เบื้องต้นสงสัยฉลาดอยู่ 2 ชนิด คือ ฉลามบลูชาร์ก หรือ ฉลามหัวบาตร และฉลามแบล็คทิป หรือ ฉลามครีบดำ-หูดำ 

โดยส่วนใหญ่ที่พบบริเวณชายหาดกมลา อ.กะทู้ นั้น จะพบเป็นฉลามหูดำหรือคลีบดำ แต่จากความคิดเห็นของนายเดวิด มาร์ติน ช่างภาพใต้น้ำและผู้เชี่ยวชาญฉลามเชื่อว่าถ้าเป็นฉลามคลีบดำหรือหูดำเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากลักษณะการเข้าโจมตีเหยื่อจะรุนแรงมาก กรณีผู้บาดเจ็บรายนี้จึงเชื่อว่าอาจเป็นฉลามบลูชาร์ก อย่างไรก็ดี ยังไม่ยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ใด แต่บาดแผลเกิดจากฉลามแน่นอน

"เราตัดข้อสงสัยเกี่ยวกับปลาสากออกไปได้เลย เพราะบริเวณตรงจุดที่เกิดเหตุไม่ใช่บริเวณแหล่งหากินของปลาสาก โดยเฉพาะบาดแผลที่พบนั้นเป็นบาดแผลที่เกิดจากฉลาม มีทั้งฟันบนและฟันล่างอยู่รวมกัน โดยเป็นบาดแผลของมีคมทั้ง 2 ด้านและมีการงับทั้งฟันบนและฟันล่างพร้อมกัน จึงตรงกับลักษณะบาดแผลที่เกิดจากฉลาม 

ประกอบกับบริเวณที่เกิดเหตุเป็นโซนนิ่งที่ฉลามออกหากิน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการเคลื่อนไหวของผู้บาดเจ็บบริเวณน้ำที่ขุ่น ฉลามจึงเข้ามาหาอาหาร และคิดว่าเป็นอาหาร จึงกัดขาผู้บาดเจ็บ แต่เมื่อกัดเข้าไปแล้วไม่ใช่อาหาร จึงไม่ได้โจมตีซ้ำ และนับว่าเกิดขึ้นได้น้อยครั้งมากกับเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้" ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าว.

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ภูเก็ต




ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง