สรุปดราม่า “หมอมุกกินเค้ก” รีวิวร้านดังลุกลามสู่ทัวร์ลงครั้งใหญ่

กระแสดราม่า “หมอมุกกินเค้ก” ขยายวงกว้างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 หลังคลิปรายงานประสบการณ์ลองชุดของหมอมุก อินฟลูเอนเซอร์สายกินวัย 24 ปี ถูกเผยแพร่บนโซเชียล โดยเธอเล่าถึงการไปลองชุดในร้าน POEM และอีกหลายร้าน ก่อนกล่าวถึงความไม่ประทับใจในบริการ เนื้อหาในคลิปทำให้เกิดความเห็นแตกต่าง ผู้ชมบางส่วนมองว่าเป็นการรีวิวตามปกติ ขณะที่อีกหลายคนมองว่าการเล่าเหตุการณ์ในรูปแบบนั้นอาจส่งผลกระทบต่อร้านอย่างไม่เป็นธรรม กระทั่งเจ้าของแบรนด์ POEM ออกมาแสดงท่าทีตอบโต้ โดยระบุว่าคลิปของหมอมุกมีลักษณะคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และอาจมีเจตนาปั่นกระแสก่อนประกาศรางวัล TikTok Awards ซึ่งหมอมุกมีรายชื่ออยู่ในผู้เข้าชิง ทำให้ประเด็นยิ่งถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง

เมื่อดราม่าเริ่มติดเทรนด์ ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งได้นำเหตุการณ์เก่าของหมอมุกกลับขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง ทั้งการแจกของเพื่อลุ้นคะแนนโหวตใน TikTok Awards ที่ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใส รวมถึงคลิปรีวิวร้านอาหารและขนมหวานในอดีตที่บางคนมองว่าอาจสร้างกระแสเพื่อ engagement มากกว่าการรีวิวจริงใจ การหยิบเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาพูดถึง ทำให้ภาพลักษณ์ของหมอมุกในฐานะอินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่ถูกตั้งคำถามในหลายมิติ ทั้งด้านการสื่อสาร การเลือกใช้คำ และการรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ตามมา

ท่ามกลางกระแสความกดดัน หมอมุกได้ออกมาชี้แจงผ่านคลิปวิดีโอและข้อความบนโซเชียล โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำร้ายร้านค้าใด เธอยอมรับว่าบางประโยคในคลิปอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ และกล่าวว่าจะนำเหตุการณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียนในการปรับตัว เธอยังกล่าวว่าพร้อมเปิดรับคำวิจารณ์เพื่อพัฒนาการสื่อสารให้รอบคอบมากขึ้น แม้คำขอโทษจะช่วยลดความตึงเครียดในบางส่วน แต่การถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ก็ยังคงดำเนินต่อในโลกออนไลน์

เหตุการณ์นี้นำไปสู่การตั้งคำถามใหม่เกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์รีวิวในยุคโซเชียล ทั้งความละเอียดในการเล่าเรื่อง ความรับผิดชอบของผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ และการรักษาสมดุลระหว่างความเห็นส่วนตัวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ การเคลื่อนไหวของหมอมุกและปฏิกิริยาจากฝั่งผู้ติดตามจึงกลายเป็นตัวอย่างที่ทำให้หลายคนหันกลับมาตรวจสอบรูปแบบการเสพและสร้างคอนเทนต์มากขึ้น