รีเซต

PFรุกฐานรีเทลหนุนรายได้ ลุยตลาดแนวราบต่อยอด

PFรุกฐานรีเทลหนุนรายได้ ลุยตลาดแนวราบต่อยอด
ทันหุ้น
6 มิถุนายน 2566 ( 15:23 )
99
PFรุกฐานรีเทลหนุนรายได้ ลุยตลาดแนวราบต่อยอด

PF จับมือพันธมิตรกลุ่มจ๊อดแฟร์ เปิดโครงการรีเทลและอาคารสำนักงาน ซึ่งจะทำให้รับรู้รายได้ในระยะยาว พร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่ ลุยจับตลาดบ้านเดี่ยวในระดับกลาง-บน สนับสนุนยอดขายเติบโตตามเป้าที่วางไว้ เผยแบ็กล็อกแน่นราว 5,866 ล้านบาท

 

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมมองหาโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตร หรือ กลุ่มของจ๊อดแฟร์ ซึ่งทำธุรกิจตลาดกลางคืน โดยร่วมทุนระหว่างพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และผู้บริหารของตลาดจ๊อดแฟร์ งัดโครงการรีเทลและอาคารสำนักงานให้เช่า บนพื้นที่ย่านถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก ซึ่งจะสามารถรับรู้  Recurring Income ได้ในระยะยาว โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในปี 2567 เป็นต้นไป

 

จ่อเปิดโครงการใหม่

 

สำหรับโครงการอสังหาเปิดใหม่ในปี 2566 บริษัทได้วางแผนที่จะเปิดจำนวน 13 โครงการ  และอีก 1 โครงการใหม่กับบริษัทร่วมทุน โดยรวมมูลค่ากว่า 17,700 ล้านบาท โดยบริษัทได้เปิดตัวเรียบร้อยแล้วจำนวน 1 โครงการ เมื่อไตรมาสที่ 1/2566 ที่ผ่านมา และช่วงไตรมาส 2/2566  มีแผนเปิดตัวอีก 4 โครงการเพิ่ม

 

ทั้งนี้ ในส่วนที่เหลือคาดจะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ตามแผน ซึ่งจะมาสนับหนุนยอดขายในปี 2566 ให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ 19,000 ล้านบาท โดยงวดไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ทั้งสิ้น 3,056 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16%

 

บริษัทจะเน้นตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลาง-บน ที่ยังคงเติบโตได้ดี เพราะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง มีเงินออม มีผลกระทบจาก LTV หรือ สินเชื่อน้อยกว่ากลุ่มทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวราคาถูก ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมคาดว่าจะกลับมาของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ส่งผลดีต่อโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury อีกด้วย

 

โดยมองว่าภาพรวมครึ่งปีหลัง 2566 คาดว่าจะมี Sentiment ดีขึ้น จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากธุรกิจโรงแรมที่ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว รวมถึงความชัดเจนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่งผลต่อเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อ Luxury House ที่คาดว่าจะกลับมาในครึ่งปีหลัง จากการเปิดประเทศ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวฟื้น และการลงทุนเพิ่มขึ้น

 

ท่องเที่ยวดันธุรกิจโรงแรม

 

ด้านธุรกิจโรงแรมของกลุ่มแกรนด์ เชื่อว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และเติบโตอย่างชัดเจน ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น และครึ่งปีหลังยังเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว โดยคาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมที่ 3,000 ล้านบาท และรายได้ธุรกิจคอนโดมิเนียมของกลุ่ม Grand ที่ 3,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้บริษัทได้กางแผนการขายดิน โดยมีเป้าหมายการขายที่ดินบริเวณรามอินทรา ประมาณ 2,200 ล้านบาท และได้มีแผนออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ของกลุ่มแกรนด์ จำนวน 4,500 ล้านบาท รวมมูลค่า 6,700 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนตามแผนต่อไป

 

แบ็กล็อก 5,866 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทมียอดจำนวนแบ็กล็อกเมื่องวดไตรมาสที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 5,866 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 2,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37%, โครงการคอนโดราว 107 ล้านบาท คิดเป็น 2% และโครงการร่วมทุนอีก 3,556 ล้านบาท คิดเป็น 61% โดยส่วนนี้คิดเป็นส่วนของ PF จำนวน 2,302 ล้านบาท และส่วนของคอนโดแกรนด์ 1,254 ล้านบาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง