DOHOME ชูธงปี 67 โต 10% ปั้นเฮาส์แบรนด์มาร์จิ้นสูง
#DOHOME #ทันหุ้น - DOHOME ตั้งเป้าปี 2567 ยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2566 รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมผู้บริหาร “ชยานนท์ หอพัตราภรณ์” ใส่เกียร์เดินหน้าทำตลาดเฮาส์แบรนด์ หวังสยายปีกอัพพอร์ตแตะ 20% ในสิ้นปีนี้ แถมเดินหน้าเปิด 4 สาขาใหม่ครึ่งหลังตามแผน แถมลุ้นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของภาครัฐในปีหน้า ชี้หากลุล่วงกระตุ้นยอดขายเพิ่ม
นายชยานนท์ หอพัตราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ในปี 2567 เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้ายอดเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี2566 เนื่องจากธุรกิจมีแนวทางทำตลาดลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ประกอบกับมีการนำเสนอสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น
ขณะที่ในช่วงที่เหลือปีนี้ทาง DOHOME มีแนวทางจะหันมามุ่งให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง (เฮาส์แบรนด์) เพราะสินค้าในส่วนดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้คงได้เห็นสัดส่วนรายได้ของเฮาส์แบรนด์ขยับเป็น20% ในสิ้นปี 2566 และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2567 เพิ่มเติมด้วย
ดิจิทัลวอลเล็ตหนุน
ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ในลักษณะ To Go มีการขยายเปิดตัวเพิ่มเติมอีก 4 สาขา เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับราคาสินค้าเหล็กนั้น มองว่าในช่วงไตรมาส 4/2566 ส่วนต่างราคาเหล็กอาจไม่ได้แตกต่างและคาดว่าจะไม่เจอกับผลกระทบด้านความผันผวนของราคาที่ปรับตัวรุนแรงเมื่ออย่างเช่นในปีก่อนอีกแล้ว ทั้งนี้มองว่าหากปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศจีนกลับมามีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในปี 2567 ก็จะเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อบริษัทเช่นกัน สำหรับงานโครงการภาคเอกชน ในปัจจุบันยังคงรอความชัดเจนของการลงทุนโครงการของภาครัฐ แต่เชื่อว่างานก่อสร้างต่างๆ จะเริ่มดีขึ้นในปี 2567 สะท้อนต่อแนวโน้มยอดขายของบริษัท
นอกจากนี้ แนวโน้มยอดขายในช่วงเดือนตุลาคม 2566 มีการขยายตัวไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี โดยยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ในปัจจุบันกลับมาเป็นบวก ขณะที่ยอดขายรวมเป็นบวกแล้วและสามารถเติบโตได้แบบตัวเลขสองหลักได้แล้วเช่นเดียวกัน สะท้อนต่อกำลังซื้อที่ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะแถบในภาคอีสาน
นายชยานนท์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของภาครัฐ ที่คาดจะเริ่มดำเนินการในปี2567 นั้นบริษัทมองถือเป็นผลบวกต่อธุรกิจ และคงช่วยสนับสนุนยอดขายในส่วนของลูกค้าทั่วไปให้สูงขึ้น ตลอดจนช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีกทางหนึ่ง
เข้าสู่ไฮซีซันดันกำไรโต
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไวรัส จำกัด(มหาชน) ระบุว่าแนวโน้มผลงาน DOHOME ไตรมาส 4/2566 คาดกําไรสุทธิเติบโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y จากกําลังซื้อในภาคเกษตรทยอยฟื้นตัว สะท้อนจากตัวเลขดัชนีรายได้ภาคเกษตรกรที่ฟื้นขึ้น+3.5% Y-Y ในเดือนกันยายน และการเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต รวมถึงดัชนีราคาข้าว, อ้อย และมันสําปะหลังปรับตัวสูงขึ้น Y-Y
ขณะที่แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีแรก 2567 จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของการก่อสร้าง ทั้งนี้ SSSG ในเดือนตุลาคม กลับมาเป็นบวกได้ราว 4% จากฐานตํ่าของสาขาอุบลราชธานีที่ถูกนํ้าท่วม หากไม่รวมสาขาอุบลราชธานี SSSG ยังเป็นบวกได้ 1%รวมถึงเงินประกันที่คาดว่าจะรับรู้ได้ในไตรมาส 4/2566 ราว 48 ล้านบาท (มูลค่าหลังหักภาษี) ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการปี 2566 จะมีกำไรสุทธิที่ 595 ล้านบาท (-28% Y-Y) และคาดกําไรสุทธิ 2567 กลับมาโตแรงเท่ากับ 1,112 ล้านบาท (+87% Y-Y) คงคําแนะนํา"ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 2567 อยู่ที่ 13 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย12.80 บาท เพราะมองกำไรปกติงวดไตรมาส4/2566 คาดโตก้าวกระโดด หลังยอดขายต่อสาขาเดิมหรือSSSG จะพลิกบวก เพราะผลกระทบน้ำท่วมจำกัด และคาดยอดคำสั่งซื้อจะฟื้นจากราคาขายข้าวขาขึ้นกับการเบิกจ่ายงบท้องถิ่น จะมีมากขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่
โดยเบื้องต้น SSSG ช่วงวันที่ 1-10 ตุลาคม2566 เติบโตราว 7% หรือขยายตัวราว3-4% ในกรณีไม่รวมยอดขายสาขาอุบล
ส่วนผลประกอบการในปี 2567 คาดว่ากำไรจะฟื้นเต็มปี เพราะการรับรู้รายได้จากสาขาใหม่ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น