BGCปลดล็อกเลิกเพิ่มทุน งบโดด94%ปันผล0.13บ.

ทันหุ้น- BGCปลดล็อกราคาหุ้น ประกาศเลิกเพิ่มทุนซื้อกิจการ 3 แห่งแล้ว พร้อมโชว์กำไรกระฉูดเท่าตัว กำไรขั้นต้นพุ่ง หลังต้นทุนก๊าซลด ประกาศจ่ายปันผลงวดไตรมาส 3 อีก 0.13 บาท ด้านนักวิเคราะห์แนะซื้อเป้า 14.70 บาท ชี้การเพิ่มทุนที่ผ่านมากดราคาหุ้นพีอีเหลือแค่ 10 เท่า

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ยกเลิกการซื้อหุ้นในบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด หรือ BVP, บริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ BGP และบริษัท กบินทร์บุรีกล๊าส อินดัสทรี จำกัด หรือ KBI จากบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด หรือ BG มูลค่า 4 พันล้านบาท รวมถึงการยกเลิกการเพิ่มทุนอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.35294 หุ้นเพิ่มทุน ราคาใช้สิทธิ์ 10.20 บาทด้วย

เนื่องจากสภาวะตลาดในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ประกอบกับการที่บริษัทได้รับทราบถึงความเห็นจากผู้ถือหุ้นถึงมูลค่าการเข้าทำรายการได้มีซึ่งสินทรัพย์ และการเพิ่มทุนที่ค่อนข้างใหญ่ แม้ว่าบริษัทจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบและเห็นว่ารายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ระยะยาว และจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นทุกราย รวมถึงที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ให้ความเห็นว่ารายการได้มาซึ่งสินทรัพย์เป็นรายการที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังพิจารณาและศึกษารายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และ/หรือทรัพย์สินอื่นเพิ่มเติม อันก่อให้เกิดประโยชน์ตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท โดยจะให้ความสำคัญต่อความเห็นของผู้ถือหุ้นที่ได้รับและสอดคล้องต่อสภาวะตลาด เพื่อดำเนินการเมื่อปัจจัยแวดล้อมมีความเหมาะสมต่อไป

@กำไรไตรมาส 3 พุ่ง94%

พร้อมกันนี้ BGC ยังได้แจ้งผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 3/2563 กำไร 155.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 80.13 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายในไตรมาส 3/63 เท่ากับ 2,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% มีสาเหตุหลักจากรายได้จากกลุ่มพลังงานโครงการที่เวียดนาม 131 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100% และรายได้จากกลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้วเพิ่มขึ้น 29 ล้านบาท หรือ 1% จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ทางการตลาด

ในไตรมาส 3/63 มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 19.7% เพิ่มขึ้น 4.81% และสำหรับงวด 9 เดือน กลุ่มบริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 1,535 ล้าบาท เพิ่มขึ้น 22% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 19.4% เพิ่มขึ้น 4.03% ทั้งนี้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากทั้งบรรจุภัณฑ์แก้วและกลุ่มพลังงาน โดยกำไรขั้นต้นจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้วที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานเฉลี่ยลดลง 29% เปรียบเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง และราคาโซดาแอชเฉลี่ยลดลง 11% เปรียบเทียบกับช่วง 9 เดือนของปีก่อน

@เคาะเป้า 14.70 บ.

คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการการจ่ายปันผล 0.13 บาท จากผลประกอบการงวดการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 25 พ.ย. จ่ายปันผล 09 ธ.ค.

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรไตรมาส3/2563ที่ 156 ล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนยันภาพรวมการฟื้นตัวของครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าไตรมาส4/2563 จะเริ่มเห็น stock คงค้างใกล้ระดับปกติที่ 80,000-90,000 ตัน และคาดจะเห็นการเติบโตของรายได้จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง รวมถึงคาดต้นทุนก๊าซธรรมชาติยังคงอยู่ในระดับต่ำ จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง YoY, และราคาต้นทุนเศษแก้วยังคงทรงตัวในกรอบ 3.00-3.40 บาท/กิโลกรัม คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 672 ล้านบาท (+31% YoY) และปี 2564 ที่ 773 ล้านบาท (+15% YoY)

ยังคงแนะนำให้ ซื้อ BGC ที่ราคาเป้าหมาย 14.70 บาท บาท บาท อิง SOTP ราคาหุ้นปรับตัวลดลงและ underperform SET -31% ในช่วง 1 เดือน เป็นผลจากความกังวลการเข้าไปซื้อกิจการ 3บริษัท ส่งผลให้ปัจจุบัน BGC เทรดที่ พีอี 2563 ที่ 10 เท่า

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)