รีเซต

BGCชนแก้วรอฉลอง เปิดประเทศกินดื่มเฮ

BGCชนแก้วรอฉลอง เปิดประเทศกินดื่มเฮ
ทันหุ้น
21 มิถุนายน 2564 ( 08:45 )
88

 

ทันหุ้น –BGC รับทรัพย์คลายล็อกร้านอาหาร-เปิดประเทศ หนุนดีมานด์ใช้ผลิตภัณฑ์ขวดแก้วเพิ่ม เล็งเพิ่มกำลังการผลิตจากเตาหลอมแก้วใหม่ 20-30% เผยยอดส่งออกปรับตัวดีขึ้น หวังเพิ่มสัดส่วนส่งออกเป็น 15-20% ภายในปี 2568 ด้านโบรกคาดกำไรปีนี้โต 10% เคาะเป้าหมาย 13.50 บาทต่อหุ้น

 

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า บริษัทคาดได้รับผลดีจากการที่มีการคลายล็อกร้านอาหาร รวมถึงการที่รัฐบาลเตรียมจะเปิดประเทศ เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทเป็นผู้ประกอบการเครื่องดื่ม และซอสปรุงรส ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ขวดแก้วของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ประเมินถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและของไทยที่จะกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น

 

ดังนั้นจึงได้เตรียมการรองรับโดยเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งตามแผนของบริษัทนั้น เตาหลอมแก้วขอนแก่น ที่เดิมมีแผนจะปิดปีนี้ก็ปรับเป็นจะกลับมาเปิดใหม่ นอกจากนี้จะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 20-30% และสร้างเตาหลอมแก้วที่ราชบุรี ซึ่งเป็นเตาใหม่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเตาหลอมทั้งหมดใน 12 เตา จากปัจจุบันมีอยู่ 11 เตา

 

*ส่งออกไปสหรัฐโต

นายศิลปรัตน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนี้สัดส่วนการส่งออกของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% ได้ เนื่องจากมีความต้องการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐที่เติบโตมาก ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสหรัฐมีแนวโน้มที่ดีขึ้น มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยปัจจุบันนี้บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐประมาณ 20-30% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ซึ่งเป็นตลาดใหญ่รองจากตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีสัดส่วนส่งออกประมาณ 50% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด

 

ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 15-20% ภายในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ดังกล่าว

สำหรับแผนการเข้าลงทุนในบริษัทนอกกลุ่มบางกอกกล๊าส ขณะนี้ก็ยังมีการเจรจาอยู่กับผู้ประกอบการ 2-3 ราย แต่บริษัทยังไม่ต้องรีบดำเนินการ เนื่องจากบริษัทหันไปเน้นการขยายธุรกิจหลักของบริษัทก่อน เพราะความต้องการขวดแก้วที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก

 

ส่วนแนวโน้มผลดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีกว่าปีก่อน เพราะปีก่อนมีฐานที่ต่ำ แต่จะมีการเติบโตในระดับใดประเมินได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาล ซึ่งหากรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามแผน ก็เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทมีโอกาสที่จะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมได้

 

*คาดกำไรปีนี้โต 10%

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BGC ว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 12,240 ล้านบาท เติบโต 11% โดยผลประกอบการไตรมาส 2/2564 คาดเห็นการเติบโต เนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีฐานที่ต่ำ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เติบโตยังคงเป็นบรรจุภัณฑ์เบียร์ จากความนิยมแอลกอฮอล์ line product ใหม่ รวมถึงรายได้เติบโตสูงขึ้นจาก 2 บริษัทใหม่ที่เริ่มรับรู้ตั้งแต่เมษายน 2564 คาดเห็นรายได้ทั้งปีจาก 2 บริษัทที่เข้ามาเพิ่มขึ้นราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยชดเชยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 80% โดย 2 บริษัทคาดมีกำไรรวมราว 72 ล้านบาทต่อปี

 

นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขยายส่งออกไปยังกลุ่มลูกค้าสหรัฐมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้สัดส่วนส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานทางเลือกคาดว่าไตรมาส 2/2564 จะกลับมาฟื้นตัว หลังเข้าสู่ฤดูร้อน ส่งผลให้คาดเห็นความต้องการใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากไตรมาส 1/2564 มีรายได้ต่ำกว่าคาด เป็นผลจากการผลิตไฟฟ้าได้ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุในเวียดนามต่อเนื่อง รวมถึงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าลดลง

 

*เชียร์ซื้อเป้า 13.50 บาท

ฝ่ายวิจัย แนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 13.50 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นธุรกิจหลักบรรจุภัณฑ์แก้วที่ราคา 10.30 บาทต่อหุ้น ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มให้ราคาเป้าหมายที่ 3.20 บาท โดยความเสี่ยงหลักในปัจจุบันคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงราคาต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง