รีเซต

วิธีขับรถให้ปลอดภัยขณะน้ำท่วม หน้าฝน : คู่มือเอาตัวรอดสำหรับคนขับรถ

วิธีขับรถให้ปลอดภัยขณะน้ำท่วม หน้าฝน : คู่มือเอาตัวรอดสำหรับคนขับรถ
EntertainmentReport1
3 มิถุนายน 2568 ( 00:00 )
18

เข้าหน้าฝนแบบนี้เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ใช้รถใช้ถนนน่าจะเริ่มเห็นน้ำท่วมขังรอการระบายกันแล้ว และสำหรับมือใหม่หรือใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่ขณะเกิดน้ำท่วมขัง ลองมาดูข้อมูลที่พวกเราทีมงาน TrueID ได้รวบรวมเอาไว้ให้ เชื่อว่าจะช่วยให้การเดินทางของเราปลอดภัยและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นได้

 

 

กฎเหล็กข้อแรก: อย่าขับรถลุยน้ำท่วม หากไม่จำเป็น!

หากสามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้หยุดรถในที่ปลอดภัยและรอให้น้ำลด เพราะความเสี่ยง และราคาที่ต้องจ่าย อาจสูงกว่าการรอเพียงไม่นานก็เป็นได้

ระดับน้ำที่รถยนต์สามารถผ่านได้อย่างปลอดภัย 

หากเลี่ยงในการขับขี่ผ่านน้ำท่วมไม่ได้จริงๆ ควรประเมินสถานะการณ์ให้ดีก่อนขับรถลงน้ำ โดยอาจดูได้จากรถคันที่กำลังลุยน้ำอยู่ โดยระดับน้ำที่อาจพอขับขี่ผ่านไปได้อย่างคร่าวๆ มีดังนี้ (ควรประเมินตามสถานะการณ์จริงหน้างานอีกที)

รถเก๋ง (Sedan)

  • ระดับปลอดภัย: ไม่เกิน 15-20 ซม. (ประมาณครึ่งล้อ)
  • ระดับอันตราย: เกิน 30 ซม. (เสี่ยงน้ำเข้าเครื่องยนต์)

รถ SUV/กระบะ

  • ระดับปลอดภัย: ไม่เกิน 30-40 ซม. (ประมาณ 2/3 ของล้อ)
  • ระดับอันตราย: เกิน 50 ซม. (เสี่ยงน้ำเข้าระบบไฟฟ้า)

สัญญาณเตือนความลึกของน้ำ

  • น้ำถึงหัวแม็ก (ล้อรถ) = อันตรายมาก
  • น้ำถึงบริเวณเบรก = หยุดทันที
  • น้ำถึงกระจังหน้า = รถจะเสียหายอย่างแน่นอน

 

 

เทคนิคการขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย

ก่อนลงน้ำ

  1. ประเมินความลึก: ใช้ไม้หรือสิ่งของวัดความลึกก่อน หรือประเมินจากรถคันที่กำลังลุยอยู่
  2. เลือกเส้นทาง: หาจุดที่น้ำตื้นที่สุดและพื้นมั่นคงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
  3. ปิดแอร์และพัดลม: ป้องกันน้ำเข้าระบบระบายอากาศ
  4. เปิดไฟฉุกเฉิน: ให้รถอื่นเห็นตำแหน่งของคุณ

ขณะขับในน้ำ

  1. ขับช้าและคงที่

    • ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 5-10 กม./ชม.
    • รักษาความเร็วคงที่ อย่าเร่งหรือเบรกกะทันหัน
  2. เทคนิคการควบคุมรถ

    • คันเร่ง: เหยียบเบาๆ และคงที่
    • พวงมาลัย: จับแน่น ขับตรงให้มากที่สุด
    • เกียร์: ใช้เกียร์ต่ำ (1-2) เพื่อแรงบิดสูง
  3. สร้างคลื่นน้ำ

    • ขับให้เกิดคลื่นน้ำเล็กๆ ให้น้อยที่สุดด้านหน้ารถ
    • คลื่นจะช่วยผลักน้ำออกจากเครื่องยนต์

สิ่งที่ห้ามทำขณะขับในน้ำ

  • หยุดรถกลางน้ำ (อาจทำให้สตาร์ทรถไม่ติด)
  • เปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ
  • เร่งแรงเพื่อขับผ่านเร็วๆ
  • ใช้เบรกแรง (อาจทำให้รถหมุน)
  • เปิดประตูหรือหน้าต่าง

 

 

สัญญาณเตือนอันตรายขณะขับในน้ำ

หยุดทันทีหาก

  • เครื่องยนต์มีเสียงผิดปกติ (เสียงแหบ หรือดังแก๊กๆ)
  • รถเริ่มสั่นหรือกระตุก
  • ไฟแดชบอร์ดติดขึ้น (เช่น ไฟเครื่องยนต์, ไฟแบตเตอรี่)
  • ควันขาวหรือไอน้ำออกจากท่อไอเสีย
  • น้ำเริ่มเข้าในห้องโดยสาร

วิธีหยุดรถในน้ำอย่างปลอดภัย

  1. ขับรถออกจากแนวน้ำลึกไปจุดที่ตื้นกว่า
  2. ดับเครื่องทันที
  3. ไม่พยายามสตาร์ทรถใหม่
  4. ออกจากรถ และเรียกความช่วยเหลือ

การดูแลรถหลังผ่านน้ำท่วม

ตรวจสอบทันทีหลังออกจากน้ำ

  1. เช็คน้ำมันเครื่อง

    • ถ้าน้ำมันเปลี่ยนสี (ขุ่น/ขาว) = น้ำเข้าเครื่องยนต์
    • ต้องเปลี่ยนน้ำมันทันที
  2. ตรวจระบบเบรก

    • เหยียบเบรกทดสอบหลายครั้ง
    • ขับช้าๆ และทดสอบเบรกเบาๆ
  3. เช็คไฟต่างๆ

    • ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว
    • ไฟแดชบอร์ดและระบบไฟฟ้า

 

การบำรุงรักษาหลังลุยน้ำ

  • เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรอง (แม้น้ำไม่เข้าเครื่อง)
  • เช็คและเปลี่ยนน้ำมันเบรก หากมีน้ำปนเปื้อน
  • ล้างท่อไอเสีย เพื่อกำจัดน้ำที่อาจตกค้าง
  • ทำความสะอาดห้องเครื่อง และตรวจสอบสายไฟ
  • ตรวจระบบแอร์ อาจมีน้ำเข้าในระบบ

การเลือกเส้นทางขณะน้ำท่วม

เส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ใต้สะพาน/อุโมงค์: น้ำมักขังลึกและไหลแรง
  • ถนนข้างแม่น้ำ/คลอง: เสี่ยงน้ำหลาก
  • ซอยแคบๆ: ไม่มีทางหนีหากรถเสีย
  • พื้นที่ลุ่มต่ำ: น้ำขังลึกกว่าที่เห็น

เส้นทางที่ปลอดภัยกว่า

  • ถนนใหญ่ที่มีการระบายน้ำดี
  • พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล
  • ถนนที่มีรถสัญจรปกติ (แสดงว่าผ่านได้)
  • เส้นทางที่มีสถานีบริการ (หากต้องการความช่วยเหลือ)

แอปฯ และเครื่องมือช่วยขับรถขณะน้ำท่วม

แอปพลิเคชันสำหรับติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

  • Traffic Report Thailand: ข้อมูลจราจรและจุดน้ำท่วม
  • Thai Flood: แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมแต่ละพื้นที่
  • Google Maps: เส้นทางทางเลือกและการจราจร
  • Waze: รายงานสถานการณ์จากผู้ใช้งานจริง

อุปกรณ์ที่ควรเตรียมไว้ในรถ

  • ไฟฉาย: กรณีขับรถในความมืด
  • เสื้อชูชีพ: เพื่อความปลอดภัยหากต้องออกจากรถ
  • เครื่องมือเบื้องต้น: ไขควง, ประแจ สำหรับยกฝากระโปรงหน้า
  • เชือก: สำหรับลากรถหากจำเป็น
  • ถุงพลาสติก: ปกป้องของสำคัญ

 

 

สรุป: หลักการขับรถขณะน้ำท่วมอย่างปลอดภัย

หลัก 3 ข้อสำคัญ

  1. หลีกเลี่ยงหากทำได้ - การรอให้น้ำลดดีกว่าการเสี่ยง
  2. ขับช้าและระมัดระวัง - ความเร็วคงที่และไม่เร่งรีบ
  3. รู้จักหยุดในเวลาที่เหมาะสม - อย่าฝืนหากสถานการณ์อันตราย

การเตรียมพร้อมล่วงหน้า

  • ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ
  • วางแผนเส้นทางสำรอง
  • เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินในรถ
  • ตรวจสอบความคุ้มครองประกันภัย

สำหรับการขับขี่ในหน้าฝนและอาจเจอน้ำท่วมขัง ควรจำไว้เสมอว่า “ไม่มีการเดินทางใดสำคัญกว่าความปลอดภัยของชีวิตคุณและคนที่คุณรัก” บางทีการรอให้น้ำหายท่วมก่อนค่อยเดินทาง อาจช่วยประหยัดเวลา ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินได้ดีกว่าก็เป็นได้ครับ

Photo Credit : AI Generated 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง