รีเซต

อนุทิน แจงกรณีไทยไม่ได้สูตร“แพกซ์โลวิด” ขอให้มั่นใจมียา-เวชภัณฑ์เพียงพอ

อนุทิน แจงกรณีไทยไม่ได้สูตร“แพกซ์โลวิด” ขอให้มั่นใจมียา-เวชภัณฑ์เพียงพอ
TNN ช่อง16
17 พฤศจิกายน 2564 ( 14:04 )
49
อนุทิน แจงกรณีไทยไม่ได้สูตร“แพกซ์โลวิด” ขอให้มั่นใจมียา-เวชภัณฑ์เพียงพอ

วันนี้( 17 พ.ย.64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึง กรณีที่ประเทศไทย ไม่มีรายชื่อใน 95 ประเทศ ที่ได้การรับถ่ายทอด เทคโนโลยี ผลิตสูตรยา แพกซ์โลวิด (Paxlovid) จากบริษัทผู้ผลิตว่า เรื่องการที่จะได้รับสิทธิที่บัตรในการผลิตยานั้น ทางบริษัทผู้ผลิตมีเกณฑ์การจัด โดยเป็นการตัดสินใจโดยบริษัทผู้ผลิตซึ่งประเทศไทยไปทำอะไรไม่ได้  แต่ขอให้ความมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนในเรื่องของจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ต่างๆเพื่อรับกับสถานการณ์โควิดต่อเนื่อง  มีการวางแผนล่วงหน้าทั้งเรื่องยา วัคซีน covid ที่ได้เตรียมไว้ในปีหน้า 

 

ส่วนตัวยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์ ยังคงมีประสิทธิภาพ และสรรพคุณในการรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี  ผู้ป่วยเมื่อได้รับยาไปแล้ว มีอาการดีขึ้นหากได้รับยาเร็วในช่วงติดเชื้อระยะแรกก็จะใช้ระยะเวลาการรักษาน้อยลง ขณะที่การที่ซื้อยา โมนูลพิราเวียร์ หรือมีแผนการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด เป็นการเตรียมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้หวังว่าจะนำมาใช้เป็นยาหลัก แต่จะเป็นยาที่จะนำมาเสริมความมั่นคงในด้านยาต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด ในกรณีที่ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้ยาชนิดนี้ ซึ่งถือเป็นทางเลือก 

 

เบื้องต้น ยาแพกซ์โลวิด ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นขึ้นทะเบียนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตคาดว่ากำลังจะได้รับการขึ้นทะเบียนในเร็วๆนี้ จากนั้นก็จะมายื่นขึ้นทะเบียนในประเทศไทยต่อไป

 

ขณะที่การรายงานผลการศึกษาวัคซีนสูตรไขว้ ซิโนแวค แอสตร้าฯ จากกรมควบคุมโรค ระบุว่า ให้ภูมิคุ้มกันมากกว่าที่คาดหวังไว้ ตอนนี้เรามีแต่ข้อมูลที่ดีๆ ควรใช้ข้อมูลดีๆแบบนี้ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจไม่ตื่นตระหนก สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์โควิด โดยไม่มีอะไรเป็นผลกระทบ ย้ำมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายอยู่แล้ว 

 

ส่วนวัคซีนสูตรไขว้ของไทยที่ไม่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศ แต่เมื่อไทยมีการศึกษาพบว่าภูมิคุ้มกันขึ้นสูง จะมีการผลักดันส่งข้อมูลให้ต่างประเทศหรือไม่  นายอนุทิน ระบุว่า ไทยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสถาบันต่างๆอยู่แล้ว โดยสูตรไขว้ที่เป็นข่าวออกไป ผู้ที่ทำการค้นคว้าทดลองเป็นคณะแพทย์ที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเป็นแบบนี้ทั่วโลก ที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้เกิด ประสิทธิผลที่ดีที่สุด 

 

นายอนุทิน ย้ำวัคซีนเรามีความพร้อมจะฉีดให้ประชาชนและ ปลายปีนี้กระทรวงสาธารณสุขจะฉีดวัคซีนถึงเป้า 100 ล้านโดสแน่นอน ส่วนมาตรการลอยกระทงทุกอย่างต้องมีการขออนุญาติและขอให้ประชาชนระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา อย่ารวมกลุ่ม หรือทำกิจกรรมที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด 

 

ทั้งนี้ เมื่อวัน ศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  กรมการแพทย์ ได้หารือกับตัวแทนบริษัทไฟเซอร์ ในประเทศไทย ประเด็นการนำเข้ายาแพกซ์โลวิดที่จะนำมารักษาผู้ป่วยโควิด-19 เบื้องต้น นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุ เป็นเรื่องราคาและไทม์ไลน์การนำเข้ายา ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และหากได้ข้อสรุปแล้วจะเร่งเสนอฝ่ายการเมือง เพื่อขออนุมัติจัดซื้อนำมารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนราคาของยาและจำนวนที่ไทยจะสั่งจอง ยังคงต้องรอความชัดเจนก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เพราะได้มีการลงนาม CDAกับไฟเซอร์ หรือการลงนามรักษาความลับ ไม่เปิดเผยข้อมูล

 

โดยในช่วงเวลา1เดือนนี้ ได้มอบหมายงานให้ฝ่ายวิชาการ ที่มีแพทย์ผู้เชี่วชาญพิจารณาถึงแนวทางคำแนะนำในการใช้ยาแพกซ์โลวิด ในการนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด

 

 

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว TNN ช่อง 16 / AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง