รีเซต

"อนุทิน" เสนอ ศบค.เพิ่มมาตรการเปิดประเทศ เผยไม่ปิดกั้นนโยบายยกเลิกใส่แมสก์

"อนุทิน" เสนอ ศบค.เพิ่มมาตรการเปิดประเทศ เผยไม่ปิดกั้นนโยบายยกเลิกใส่แมสก์
TNN ช่อง16
21 เมษายน 2565 ( 12:58 )
67

วันนี้ (21 เม.ย.65) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการประชุม ศบค. วันพรุ่งนี้ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ เพื่อให้ศบค.พิจารณา ในมาตรการเปิดกระเทศ

สำหรับในส่วนการเดินทางเข้าประเทศ ยืนยันสามารถรับมือได้ มีความเข้มงวดในระบบที่วางไว้ หากสามารถควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อและผู้เสียชีวิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่รับมือได้จะทำให้ประเทศเดินหน้าในเรื่องต่างๆ ได้

นายอนุทิน ระบุเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การติดเชื้อหากไม่นับรวม ATK จะมีผู้ติดเชื้อประมาณวันละ 20,000 ราย ขณะที่ผู้เดินทางเข้าประเทศ มีการตรวจ RT-PCR และมีการกักตัวในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกก่อนผลออก ในจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 100 คนต่อวัน จำนวนนี้เป็นคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศด้วย

ขณะเดียวกัน หลังจากที่ไทยมีการผ่อนคลายมาตรการในกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น การตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง เมื่อถึงประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ก็พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาจำนวนมากรวมถึงนักธุรกิจต่างประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทย อยากให้เกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่ได้มีการเปิดประเทศ ขณะเดียวกันไทย ยังมีความเข้มงวดการตรวจคัดกรองเชื้อกว่าในหลายประเทศ 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะต้องบริหารจัดการควบคุมการติดเชื้อที่นำไปสู่อาการหนักและเสียชีวิตได้ เพื่อระบบสาธารณสุขสามารถรองรับได้ ทางรัฐบาลไทยมีความตั้งใจที่จะเปิดประเทศให้มากขึ้นและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ 


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากไทยมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ รวมถึงเปิดประเทศมากขึ้น จะมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกเข้ามาเพิ่มหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างมีปัจจัยเสี่ยง แต่ขึ้นอยู่กับกาาบริหารปัจจัยเสี่ยงอย่างไร ถ้าไม่อยากให้มีปัจจัยเสี่ยงก็ต้องล็อกดาวน์ แต่ประชาชนจะรับไม่ไหว หากมีการล็อกดาวน์อีกครั้ง 

ส่วนกรณีที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. เสนอการไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยภายใน 90 วัน นายอนุทิน ระบุว่า ขณะนั้นจะมี ศบค.อยู่หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม.ก็เป็นกรรมการท่านหนึ่งใน ศบค.อาจจะมีการนำเสนอในเรื่องดังกล่าวได้ 

หากผู้สมัครรายนั้นได้เป็นผู้ว่า กทม. ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็อาจจะเห็นด้วยหรือมีข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นไปตามหลักวิชาการ แต่คงไม่น่ามีปัญหา ใครคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ทุกฝ่ายก็น้อมรับในข้อเสนอนั้น และมาหารือกัน 

ทั้งนี้ เรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย ต้องดูว่านอกจากการป้องกันโควิด-19 และยังช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจลดลง

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลหากไปสู่โรคประจำถิ่นทุกคนมีภูมิคุ้มกันเป็นที่เรียบร้อยผู้ที่ได้รับเชื้อก็จะไม่มีอาการหนัก หากไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัย ไม่มีกฎหมายบังคับ แต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม ส่วนพื้นที่ที่บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ออกกฎเกณฑ์ในการบังคับใช้.


ภาพจาก ทีมข่าว TNN ช่อง 16

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง