รีเซต

รัฐวิกตอเรียในออสเตรเลียประกาศเคอร์ฟิว-ภัยพิบัติโควิด-19

รัฐวิกตอเรียในออสเตรเลียประกาศเคอร์ฟิว-ภัยพิบัติโควิด-19
TNN ช่อง16
2 สิงหาคม 2563 ( 15:21 )
241
รัฐวิกตอเรียในออสเตรเลียประกาศเคอร์ฟิว-ภัยพิบัติโควิด-19

วันนี้ (2ส.ค.63) รัฐวิกตอเรีย  ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย  ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ และเคอร์ฟิว หรือการห้ามออกนอกเคหะสถานช่วงเวลากลางคืน ในเขตพื้นที่เมืองเมลเบิร์น   อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมไวรัสโควิด-19  ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกรอบ   โดยเมลเบิร์น  ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย  ตกอยู่ภายใต้คำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านที่ไม่จำเป็น  ยกเว้น ออกมาซื้ออาหาร และยา หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า  รัฐวิกตอเรีย  มีผู้ติดเชื้อ 671 รายและเสียชีวิต 7 ราย  ถือว่า เป็นตัวเลขที่สูงมาก ท่ามกลางคำสั่งให้ประชาชนอยู่ในบ้าน  นายแดเนียล  แอนดริวส์  มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย บอกว่า   มาตรการขณะนี้  เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน   แต่ก็ยังมีประชาชนไปโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก   ทำให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรง  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทางการยังทำงานไม่รวดเร็วเพียงพอ

สำหรับเคอร์ฟิว จะเริ่มมีผลในช่วงค่ำวันอาทิตย์  ตั้งแต่ 20 นาฬิกา จนถึง 5 นาฬิกาในเมืองเมลเบิร์น  เพื่อห้ามประชากรเกือบ 5 ล้านคน ออกจากบ้าน ยกเว้นไปทำงาน หรือเข้ารับบริการทางการแพทย์   ส่วนเจ้าหน้าที่บุคลาการแพทย์ยังคงทำงานได้ตามปกติ  นอกจากนั้น มาตรการใหม่ ยังจำกัดเวลาของชาวเมลเบิร์น ในการออกกำลังกลางแจ้ง หรือซื้อของใช้จำเป็น  และโรงเรียนทั้งหมด จะเปิดการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์ตั้งแต่วันพุธนี้ 

ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ต จะยังคงเปิดตามปกติ   แต่ร้านอาหาร ห้ามนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน และลูกค้าสามารถซื้ออาหารนำกลับไปได้ หรือสั่งอาหารทาง delivery   ขณะที่  รัฐบาลกลางออสเตรเลีย สนับสนุนมาตรการของรัฐวิกตอเรีย   นายกรัฐมนตรีสกอต มอร์ริสัน  โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค โดยให้กำลังใจประชาชนในรัฐวิกตอเรียว่า  เราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน 

ด้าน รัฐนิวเซาท์เวลส์  ซึ่งเป็นรัฐเพื่อนบ้านของรัฐวิกตอเรีย  มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 12 ราย  และทางรัฐนิวเซาท์เวลส์ เรียกร้องประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง