รีเซต

พณ.เร่งปิดดีล เอฟทีเอ ไทย – ตุรกี ภายในปี 65 ตั้งเป้ายอดค้า2ฝ่ายแตะ 2 พันล้านดอลล์

พณ.เร่งปิดดีล เอฟทีเอ ไทย – ตุรกี ภายในปี 65 ตั้งเป้ายอดค้า2ฝ่ายแตะ 2 พันล้านดอลล์
มติชน
12 เมษายน 2565 ( 11:32 )
65

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการประชุมเจรจา FTA ไทย – ตุรกี ว่า อยู่ระหว่างเร่งเดินหน้าหาข้อสรุปการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) รวมถึงการสร้างโอกาสทางการค้าและขยายตลาดใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการไทย ตามนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ไทยมีแผนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจา FTA ไทย – ตุรกี รอบที่ 8 เดือนมิถุนายนนี้ โดยเน้นหารือเรื่องการเปิดตลาดการค้าสินค้า การลดและยกเลิกภาษีนำเข้า และการเจรจาจัดทำข้อบทความตกลงฯ ที่ยังค้างอยู่ เพื่อให้การเจรจาคืบหน้าและได้ข้อสรุปโดยเร็ว พร้อมทั้งเตรียมวางแผนการเจรจารอบที่ 9 ในช่วงไตรมาสที่ 3 และรอบที่ 10 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2563 – 2564 ทำให้ไทยและตุรกีต้องปรับรูปแบบการประชุมเจรจาผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อให้การเจรจามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้

 

สำหรับตุรกีถือเป็นตลาดสำคัญที่มีความน่าสนใจ มีประชากรกว่า 80 ล้านคน ตั้งอยู่ในจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรปกับเอเชีย และเป็นประตูการค้าสู่ 4 อนุภูมิภาค ทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกาตอนเหนือ สหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศเอเชียกลางติดทะเลดำ ซึ่งประเมินว่า หลังจากความตกลงฯ มีผลบังคับใช้ จะช่วยให้มูลค่าการค้าสองฝ่ายขยายตัวได้ตามเป้าถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ตุรกีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 39 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 5 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปี 2564 การค้าระหว่างไทยกับตุรกี มีมูลค่า 1,646 ล้านเหรียญสหรัฐ (51,924 ล้านบาท) ไทยส่งออกไปตุรกีมูลค่า 1,354 ล้านเหรียญสหรัฐ (42,576 ล้านบาท) และไทยนำเข้าจากตุรกีมูลค่า 292 ล้านเหรียญสหรัฐ (9,348 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเม็ดพลาสติก ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์โลหะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง