TACC 'กรุงศรี' ประเมิน พันธมิตรแกร่ง เสริมโต
บล.กรุงศรี ส่อง TACC หรือ บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) จากประเด็นสำคัญจากงาน Opportunity day โดยTACC ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% สำหรับปีนี้ – ธุรกิจ B2B ขยายตัวดีขึ้นทั้งจาก 7- Eleven ตามจำนวนสาขาในประเทศ (+700 สาขาต่อปี) และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น (สาขา ณ เดือนมี.ค. กัมพูชา – 48 สาขา) ซึ่งรายได้ส่วนนี้ยังเป็นสัดส่วนสำคัญของการ เติบโตของ TACC – 93% ของรายได้รวม
ส่วนธุรกิจ B2C น่าจะเห็นการเติบโตมากขึ้นสำหรับธุรกิจคาเฟ่จากร้านกาแฟ Jungle ใน Lotus’s go fresh, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, Arabitia, Black canyon ขณะที่ธุรกิจ license ตัวละครฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยทาง TACC ยังคงเป็นพันธมิตรกับ Line creators TH, หมาจ๋า, Rilakkuma SAN-X เน้นตลาด ต่างประเทศ – สิงค์โปร์ มาเลเซีย และ CLMV เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเริ่มขยายตลาดไปสู่ ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นสำหรับตัวละครหมาจ๋า สำหรับใน Q2/66 น่าจะได้เห็นสินค้าในกลุ่มLine creators รวมถึงความคืบหน้าจากการเข้าสุ่ธุรกิจ Health & wellness ด้วย
คาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32% จากต้นทุนสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ อัตรากำไรขั้นต้น Q4/65 ลดลงเหลือ 31% จาก 35% ใน Q3/65 โดยทาง TACC ได้มี การเริ่มเจรจาด้านการปรับราคาซึ่งน่าจะทำให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น รวมถึงแนวโน้ม ราคาวัตถุดิบค่อยๆ ปรับลง ซึ่งน่าจะเห็น GP ปรับดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี เนื่องจากต้นทุนในช่วงครึ่งปีแรกยังใกล้เคียงกับช่วงปลายปี 65 ซึ่งยังจะทำให้ต้นทุน ในช่วง ครึ่งแรกปี66 ยังคงสูง
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อ TACC หลังจากงาน Opportunity day มองว่าผลรายได้สามารถฟื้นตัวต่อได้ทั้ง yoy และ qoq จากกิจกรรมในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น รายได้จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับลดลง จะยังส่งผลต่อกำไรรวมถึงการปรับตัวของราคา TACC ในระยะสั้น หากมองต่อไปข้างหน้า การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง CPALL จะเป็นตัวช่วยให้ TACC เติบโตได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ
โดยราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus อยู่ที่ 8.8 บาท /หุ้น **