เฮอริเคน “เอริน” แรงต่อ ทำคลื่นสูง 6 เมตรซัดฝั่งสหรัฐฯ

พายุเฮอริเคน “เอริน” ส่งผลกระทบตลอดแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาอย่างหนัก โดยทำให้เกิดระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและคลื่นซัดชายฝั่งรุนแรง ส่งผลให้มีการประกาศเตือนภัยน้ำท่วมและพายุโซนร้อนในหลายพื้นที่
ชาวบ้านในพื้นที่ชายฝั่งกำลังเตรียมรับมือกับคลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) สูงสุดถึง 1.2 เมตรและการกัดเซาะชายหาดอย่างรุนแรง โดยคาดว่าคลื่นทะเลจะสูงถึง 4.5–6 เมตรซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ “คุกคามชีวิต” โดยชายหาดของรัฐนอร์ทแคโรไลนามีแนวโน้มจะเผชิญคลื่นรุนแรงที่สุด
แรงคลื่นที่จะซัดชายฝั่งคาดว่าจะต่อเนื่องอย่างน้อย 2 วันขณะที่พายุเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ทางเหนือ นอกชายฝั่งจนถึงวันพฤหัสบดี ทางการได้สั่งห้ามประชาชนลงเล่นน้ำในมหาสมุทรตลอดแนวชายฝั่งตะวันออก
เมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) ที่ผ่านมา ความเร็วลมของพายุลดลงเหลือราว 160 กม./ชม.หลังถูกลมแรงตัดกำลังด้านทิศเหนือ แต่เช้าวันพุธ ( 20 ส.ค.) ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่าพายุได้ทวีกำลังแรงใหม่อีกครั้งรายงานยังระบุว่า คลื่นที่เกิดจากพายุเอรินจะส่งผลกระทบต่อบาฮามาส เบอร์มิวดา ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ และแคนาดาฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในอีกหลายวันข้างหน้า ซึ่งจะก่อให้เกิดคลื่นทะเลรุนแรงและกระแสน้ำไหลเชี่ยวที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
สำหรับการประกาศเตรียมพร้อมในพื้นที่เสี่ยง มีทั้งที่นครนิวยอร์กได้สั่งห้ามว่ายน้ำที่ชายหาดในวันพุธและพฤหัสบดีเพราะกระแสน้ำเชี่ยว ส่วนรัฐนิวเจอร์ซีย์และเดลาแวร์สั่งปิดชายหาดตั้งแต่วันอังคาร และคาดว่าจะขยายเวลาปิดไปจนถึงวันศุกร์หรือนานกว่านั้น และแนวชายฝั่งตั้งแต่ฟลอริดาจนถึงนิวยอร์กถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงกระแสน้ำเชี่ยวจนถึงคืนวันพุธ
ด้านนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การที่เฮอริเคน “เอริน” สามารถทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ทำให้มันติดอันดับหนึ่งในพายุที่ทวีกำลังเร็วที่สุดเท่าที่เคยบันทึกในมหาสมุทรแอตแลนติก ปรากฏการณ์นี้สอดคล้องกับคำเตือนว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศจากก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้น กำลังทำให้พายุเฮอริเคนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงรวดเร็วขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
