สรุปดราม่า Thailand Pavillion World Expo 2025 'ดีไซน์เอกชน คอนเทนต์ราชการ' จริงไหม?

ดีไซน์เอกชน คอนเทนต์ราชการ
ใครอนุมัติงบ 900 ล้านบาท
ผิดธีมไหม สร้างไม่คุ้มงบเลย
นี่ล้วนแต่เป็นคอมเมนต์ของชาวไทย ที่ได้เข้าไปรับชม Thailand Pavilion หรือศาลาของประเทศไทย ในงาน World Expo 2025 ซึ่งงานที่ดูเหมือนจะเป็นการโปรโมทประเทศ สู่นานาชาติ กลับถูกคอมเมนต์ตั้งแต่เปิดงาน แถมยังพบข้อสงสัยของงบประมาณ และบริษัทที่รับงานอีก แล้วจริงๆ แล้วศาลาไทย ไม่สวย ไม่คุ้มงบจริงไหม แล้วต่างชาติมองยังไงกันบ้าง ?
World Expo ว่า ถือเป็นงานนิทรรศการระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี โดยปีนี้ จัดขึ้นที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน - 13 ตุลาคม 2568 มีธีมหลักคือ ออกแบบสังคมอนาคต เพื่อชีวิตคนเรา ซึ่งปีนี้ ก็มีประเทศที่มีศาลา โชว์ความเป็นประเทศของตัวเองกันมากกว่า 35 ประเทศ และไทยก็คือหนึ่งในนั้น
โดยหน่วยงานรัฐไทย ที่มีส่วนรับผิดชอบในการร่วมจัดแสดงคือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่จะแสดงศักยภาพด้านสาธารณสุข และการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพของไทยด้วยนิทรรศการภายในงานรวมถึงยังมีจุดที่เป็นจุดนวดไทย โชว์อาหารไทย ไปถึงการแสดงมวย และรำไทยต่างๆ ด้วย
แต่คำวิจารณ์ของคนที่ไปเยี่ยมชมในช่วงวันแรกๆ ที่เป็นประเด็นดราม่าบนโซเชียลนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ตั้งคำถามถึงการใช้ไม่งบประมาณกับการจัดงาน 900 ล้านบาท ซึ่งผลงานที่ได้ออกมานั้น ดูไม่คุ้มค่า การแสดงเหมือนนิทรรศการโรงเรียน เป็นการสื่อสารที่พูดถึงอดีต มากกว่าอนาคตที่เป็นธีมงาน ดีไซน์เอกชน แต่คอนเทนต์ข้างในช่างเป็นราชการเหลือเกิน วิดีโอในงานยังก็ดูเล่าเรื่องแบบงงๆ ทำให้หลายๆ คนมองว่า ระยะเวลาจัดงานที่ลากยาวถึงตุลาคมนั้น ควรปรับอีกหลายอย่าง
แล้วนอกจากดราม่าคำวิจารณ์แล้ว คนอื่นๆ รีวิวว่าอย่างไร
ในคลิปการรีวิวงาน World Expo 2025 ของยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่น Rion Ishida เขาเล่าว่าเขาใช้เวลาต่อคิว Thailand Pavilion ประมาณ 12 นาที ซึ่งถือว่าใช้เวลาน้อยกว่าของหลายประเทศ โดยจากคลิปของเขา จะเห็นว่า ในศาลาของไทย ยังมีบางจุดที่ยังไม่ราบรื่น เช่นบนโต๊ะอาหาร ที่ต้องมีภาพจำลองอาหารไทยนั้น บางจุดการฉายภาพก็ยังไม่ขึ้นมาดี และเขาใช้เวลาอยู่ข้างในนั้นประมาณแค่ 15 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีรีวิวของชาวฝรั่งเศสในเว็ปไซต์ Reddit ที่จัดอันดับและแรงค์ Pavilion ของแต่ละประเทศ ซึ่งเขาเองก็ได้ไปเยี่ยมชม World Expo เมื่อปี 2020 มา และในตอนนั้นประทับใจ ศาลาของใจสิงคโปร์มาก ซึ่งปีนี้เขาชี้ว่าสิงคโปร์ก็ยังคงทำได้ดีมากๆ อีกครั้ง ทำให้เขาจัดสิงคโปร์ และฝรั่งเศส ซึ่งเขาบอกว่า พัฒนากว่า 5 ปีที่แล้วเยอะมาก อยู่ในระดับ S หรือระดับยอดเยี่ยม รองลงมาคือระดับ A และ B ซึ่งประเทศไทย เขาจัดให้อยู่ต่ำกว่านั้น คือระดับเฉยๆ ไปพร้อมกับศาลาของ Future City, คันไซ, เติร์กเมนิสถาน และประเทศนอร์ดิกด้วย
TNN Online ยังได้สอบถามชาวไทยที่ได้เข้าไปท่องเที่ยวเพิ่มเติม ถึง Thailand Pavillion ว่าเป็นอย่างที่เขาวิจารณ์กันหรือไม่ ซึ่งก็ได้คำตอบว่า เห็นด้วยกับประโยคที่ว่า ดีไซน์เอกชน คอนเทนต์ราชการจริง และคอนเทนต์ข้างในก็ค่อนข้างเบาบางมาก แต่ถ้าเทียบกับประเทศเล็กๆ อื่นๆ ดีไซน์เราแม้ไม่ว้าวมาก แต่ทำได้ดีกว่าจริง
ทั้งเรายังได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่ไปชม Thailand Pavillion มาเช่นกัน ซึ่งอย่างแรกที่เขาชมคือมาสคอต น้องภูมิใจของไทย แต่ก็เสียดายที่ไม่ได้ใช้คาแรคเตอร์โปรโมทมากกว่านี้ ทั้งเขาก็รู้สึกแปลกใจเพราะที่ผ่านมา รู้จักไทยในด้านการท่องเที่ยว แต่งานนี้ทำให้ได้รู้ว่า ระบบสาธารณสุขของไทยก็เป็นจุดเด่นของประเทศด้วย ทั้งเทียบกับศาลาประเทศอื่นๆ แล้ว ทีมงานของไทยเป็นมิตร และสนุกสนาน และเขายังคิดว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกในท้องถิ่นนั้นยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งนอกจากไทยแล้ว เขาก็ประทับใจศาลาของมาเลเซียเพื่อนบ้านของเรา
ด้านสื่อญี่ปุ่นเอง ก็พูดถึง Thailand Pavillion ในแง่ชื่นชมตัวอาคาร ที่เนื่องจากพื้นที่จำกัด แต่ไทยใช้กระจกสะท้อนได้ดี ทำให้เมื่อมองด้านข้างเข้าไป จะรู้สึกว่าใหญ่มาก ๆ รวมถึงคอมเมนต์ของชาวญี่ปุ่นเอง ก็มองว่า มีกิจกรรมหลายอย่างที่เพลิดเพลินได้ เช่นการนวด ดูการแสดงรำ ไปถึงว่า Thailand Pavillion มีกลิ่นที่แตกต่าง อย่างกลิ่นอาหาร และอาหารเผ็ดอย่างต้มยำกุ้งด้วย
แต่นอกจากคอมเมนต์และการรีวิวแล้ว Thailand Pavillion ยังถูกตั้งคำถามถึงงบประมาณ และบริษัทผู้จัดงาน ที่ดูมีข้อสงสัย จากการที่เคยมีการประมูลด้วยการเสนอราคากลาง ถูกกำหนดใหม่ถึง 3 ครั้ง ก่อนเปลี่ยนวิธีจัดซื้อจัดจ้างจาก “คัดเลือก” เป็น “เฉพาะเจาะจง” ทำให้บริษัท "กิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ" เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยวงเงินกว่า 867.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทนี้เคยเสนอราคาต่ำกว่าในการประมูลรอบก่อนด้วย และยังมีบริษัทที่ชื่อคล้ายคลึงกัน ที่เคยได้รับงาน แต่ปิดตัวลงไปแล้วด้วย ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเกี่ยวข้อง
ถึงอย่างนั้น กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ยืนยันว่าการประมูลเป็นไปด้วยการโปร่งใส และยินดีน้อมรับคำติชม รวมถึงได้เตรียมสร้างทีม Thailand ที่รวมสมาชิกจากหลายหน่วยงาน รวมถึงครีเอทีฟ และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อระดมความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ นำมาพัฒนาการจัดงานให้ดีขึ้น
โดยคาดว่าในระยะเวลา 6 เดือนนี้ จะมีผู้ชม Thailand Pavilion 3 ล้านคนได้ตามเป้า ซึ่งเราคงต้องติดตามกันว่า หลังจากนี้ จะมีการปรับปรุงตามคำแนะนำกันอย่างไร