#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
จากกรณี เหตุการณ์ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย - ภาชี หมู่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโกดังร้าง มีคนลักลอบนำสารเคมีมาเก็บ เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางในคดี 4 พันตัน จุดเกิดเหตุเป็นโกดังที่ 4 และ 5 กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่ม ควันดำพวยพุ่ง สู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็น เป็นวงกว้างต่อมา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สั่งการด้วยเอง พร้อมสั่งการขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้ามาเร่งควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด สั่งการในเรื่องดับเพลิงก่อนประสานหน่วยงานข้างเคียงรถดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด จัดการจราจร และเตรียมอพยพคนย้ายคนผู้ป่วยที่โรงพยาบาลภาชี กว่า 30 คน ย้ายไปก่อนเนื่องจากยังมีกลุ่มควันจำนวนมากอยู่ โดยจะย้ายไปโรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัยล่าสุดทาง ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศ โรงพยาบาลภาชี ปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่เกิดเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บสารเคมีของกลางลอยไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งห่างประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพจากการเผาไหม้ของสารเคมีภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา ขณะที่ โรงพยาบาลภาชี ได้อพยพผู้ป่วย ประมาณ 37 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่ได้มีการประสานเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย หรือโรงพยาบาลที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด แล้ว รวมถึงที่ โรงพยาบาลสนานและศูนย์อพยพ ที่ วัดโคกม่วง ตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสนานที่ พร้อมรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเตรียมที่นอน หมอน มุ่ง อาหารน้ำดื่มรวมถึงจัดทีมแทพย์มาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบบางส่วนเดินทางมาอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้แล้วพระครูพิพัฒน์ ศาสนกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดโคกม่วง เจ้าคณะตำบลภาชี เปิดเผยว่าหลังจากได้รับการประสานก็พร้อมเปิดเป็นศูนย์อพยพได้ทันที ซึ่งตอนนี้ก็มีมาแล้วบางส่วน ซึ่งตรงนี้สามารถรับได้เป็นร้อยคน และยังมีอาคารด้านในอีกและโรงเรียน ซึ่งสามารถรองรับได้เรื่อยๆ ซึ่งประสานวัดในเขตปกครองไว้แล้วถ้าไม่เพียงพอหรือเกิดเหตุฉุกเฉินภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา
อ่านต่อ >49
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (3 พ.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาโรงงานเก็บสารเคมีเกิดเพลิงไหม้ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ได้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปช่วยดูตรงนี้ เพราะหากมีการวางเพลิงเพื่อกลบหลักฐานถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวให้ความสำคัญและจริงจังต่อการแก้ปัญหาโรงงานเก็บสารเคมี ทั้งจากการลงพื้นที่ การสั่งการ และติดตามงานจากรมว.อุตสาหกรรมด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าการเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมีอันตราย เป็นการลอบวางเพลิงเพื่อเผาทำลายหลักฐาน ดังนั้นจึงได้กำชับอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเนื่องจากเกรงว่า ผู้ประกอบการนายทุน จะถือโอกาสนำกรณีของอำเภอภาชี ไปเป็นต้นแบบในการเผาทำลายของกลางอีกรมว.อุตสาหกรรม ระบุอีกว่าได้สั่งการให้มีการปรับการบริหารจัดการ เรื่องการกำจัดกากสารเคมีจากนี้ไปจะต้องทำเป็นระบบ ให้เข้มงวดตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง จนถึงปลายทาง ที่ผ่านกระบวนการ รีไซเคิลเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไป กระทรวงอุตสาหกรรมจะทำงานแบบบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันทำงาน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งความเป็นอยู่ สัตว์เลี้ยง พืชผลทางการเกษตร ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ดังนั้นต้องร่วมมือกันทั้งจังหวัด ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ซ้ำอีกภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล
อ่านต่อ >39
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 3 พ.ค.67 ) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รายงานข้อมูลจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่า ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 10 อำเภอ เหตุเกิด 51 ครั้ง ความเสียหายประมาณ 2,535 ไร่ รวมถึงพื้นที่ป่าพรุสิรินธร และป่าพรุบาเจาะไม้แก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างเต็มกำลัง แต่ยังมีบางพื้นที่ไม่สามารถยุติสถานการณ์ได้ และบางส่วนได้ขยายพื้นที่ไฟไหม้เพิ่มขึ้น สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จ.นราธิวาส ได้ประสานกับผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง บรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า รักษาระบบนิเวศน์ในพื้นที่ป่าพรุบาเจาะ - ไม้แก่น และป่าพรุสิรินธร เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้ว จำนวน 3 วัน 6 เที่ยวบิน ระยะเวลา 14.55 ชั่วโมง ใช้สารทำฝนหลวง 10.2 ตัน มีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ อ.ศรีสาคร, อ.จะแนะ และ อ.รือเสาะ ในวันนี้ ( 3 พ.ค.67 ) ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ กำหนดแผนปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยใช้เครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นบินจากกองบินที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี ในเวลา 11.00 น.คาดว่าจะสามารถปฏิบัติการได้ในเวลา 13.30 น.จะทำให้มีโอกาสฝนตกในพื้นที่สูง ขณะที่เหตุไฟไหม้สวนยางและสวนปาล์มของชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ต่างช่วยกันควบคุมเปลวเพลิง ซึ่งดำเนินการด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ชาวบ้านต้องช่วยกันขุดหลุมรอบสวนตัวเอง เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นมาอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะต้องใช้น้ำในปริมาณมาก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้ง ไฟลุกไหม้จากใต้ผิวดินที่มีเศษวัชพืชสะสม รถดับเพลิงจากอบต.โฆษิต ได้ลำเลียงน้ำเข้ามาทำการดับไฟโดยรอบ เพื่อให้มีความชุ่มชื้นในชั้นผิวดิน ไฟจะได้ไม่ปะทุขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาทางเดินหายใจด้วย เพราะสภาพอากาศร้อนและมีควันไฟปกคลุมไปทั่วพื้นที่สำหรับความเสียหาย ล่าสุดพื้นที่สวนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 514 ไร่ จำนวน 48 ราย แยกเป็นสวนยาง จำนวน 14 ราย รวม 200 ไร่, สวนปาล์ม จำนวน 29 ราย รวม 300 ไร่ และสวนแตงโม จำนวน 5 ราย รวม 14 ไร่ ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก คาดกว่า 1,000 ไร
อ่านต่อ >15
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (2 พฤษภาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และอุณหภูมิสูง จนอาจเกิดพายุฤดูร้อนตามมาได้ โดยขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน พร้อมทั้งเฝ้าระวังอันตราย และเตรียมพร้อมรับมือกับพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (79/2567) ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่คาดว่าจะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 3 - 7 พฤษภาคม 2567 เนื่องจากมีความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก อาจทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ไทยตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสาน เนื่องจากมีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 44 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ในบริเวณประเทศไทยตอนบนที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อาจส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนเกิดในบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้รัฐบาลเน้นย้ำขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศไทยตอนบน เฝ้าระวังอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และสำหรับเกษตรกรให้เตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง ที่ http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนในการเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด รวมถึง ระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยในบ้านเรือน รวมถึงระมัดระวังหากเกิดเหตุการณ์พายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองที่อาจตามมา จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ และติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน” นายชัย กล่าว
อ่านต่อ >35
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
จากกรณี เหตุการณ์ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย - ภาชี หมู่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโกดังร้าง มีคนลักลอบนำสารเคมีมาเก็บ เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางในคดี 4 พันตัน จุดเกิดเหตุเป็นโกดังที่ 4 และ 5 กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่ม ควันดำพวยพุ่ง สู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็น เป็นวงกว้างต่อมา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สั่งการด้วยเอง พร้อมสั่งการขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้ามาเร่งควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด สั่งการในเรื่องดับเพลิงก่อนประสานหน่วยงานข้างเคียงรถดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด จัดการจราจร และเตรียมอพยพคนย้ายคนผู้ป่วยที่โรงพยาบาลภาชี กว่า 30 คน ย้ายไปก่อนเนื่องจากยังมีกลุ่มควันจำนวนมากอยู่ โดยจะย้ายไปโรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัยล่าสุดทาง ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศ โรงพยาบาลภาชี ปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่เกิดเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บสารเคมีของกลางลอยไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งห่างประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพจากการเผาไหม้ของสารเคมีภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา ขณะที่ โรงพยาบาลภาชี ได้อพยพผู้ป่วย ประมาณ 37 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่ได้มีการประสานเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย หรือโรงพยาบาลที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด แล้ว รวมถึงที่ โรงพยาบาลสนานและศูนย์อพยพ ที่ วัดโคกม่วง ตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสนานที่ พร้อมรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเตรียมที่นอน หมอน มุ่ง อาหารน้ำดื่มรวมถึงจัดทีมแทพย์มาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบบางส่วนเดินทางมาอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้แล้วพระครูพิพัฒน์ ศาสนกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดโคกม่วง เจ้าคณะตำบลภาชี เปิดเผยว่าหลังจากได้รับการประสานก็พร้อมเปิดเป็นศูนย์อพยพได้ทันที ซึ่งตอนนี้ก็มีมาแล้วบางส่วน ซึ่งตรงนี้สามารถรับได้เป็นร้อยคน และยังมีอาคารด้านในอีกและโรงเรียน ซึ่งสามารถรองรับได้เรื่อยๆ ซึ่งประสานวัดในเขตปกครองไว้แล้วถ้าไม่เพียงพอหรือเกิดเหตุฉุกเฉินภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา
อ่านต่อ >49
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (3 พ.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาโรงงานเก็บสารเคมีเกิดเพลิงไหม้ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ได้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปช่วยดูตรงนี้ เพราะหากมีการวางเพลิงเพื่อกลบหลักฐานถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวให้ความสำคัญและจริงจังต่อการแก้ปัญหาโรงงานเก็บสารเคมี ทั้งจากการลงพื้นที่ การสั่งการ และติดตามงานจากรมว.อุตสาหกรรมด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าการเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมีอันตราย เป็นการลอบวางเพลิงเพื่อเผาทำลายหลักฐาน ดังนั้นจึงได้กำชับอุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเนื่องจากเกรงว่า ผู้ประกอบการนายทุน จะถือโอกาสนำกรณีของอำเภอภาชี ไปเป็นต้นแบบในการเผาทำลายของกลางอีกรมว.อุตสาหกรรม ระบุอีกว่าได้สั่งการให้มีการปรับการบริหารจัดการ เรื่องการกำจัดกากสารเคมีจากนี้ไปจะต้องทำเป็นระบบ ให้เข้มงวดตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง จนถึงปลายทาง ที่ผ่านกระบวนการ รีไซเคิลเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไป กระทรวงอุตสาหกรรมจะทำงานแบบบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันทำงาน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งความเป็นอยู่ สัตว์เลี้ยง พืชผลทางการเกษตร ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ดังนั้นต้องร่วมมือกันทั้งจังหวัด ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ซ้ำอีกภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล
อ่านต่อ >39
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 3 พ.ค.67 ) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รายงานข้อมูลจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่า ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 10 อำเภอ เหตุเกิด 51 ครั้ง ความเสียหายประมาณ 2,535 ไร่ รวมถึงพื้นที่ป่าพรุสิรินธร และป่าพรุบาเจาะไม้แก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างเต็มกำลัง แต่ยังมีบางพื้นที่ไม่สามารถยุติสถานการณ์ได้ และบางส่วนได้ขยายพื้นที่ไฟไหม้เพิ่มขึ้น สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จ.นราธิวาส ได้ประสานกับผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง บรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า รักษาระบบนิเวศน์ในพื้นที่ป่าพรุบาเจาะ - ไม้แก่น และป่าพรุสิรินธร เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้ว จำนวน 3 วัน 6 เที่ยวบิน ระยะเวลา 14.55 ชั่วโมง ใช้สารทำฝนหลวง 10.2 ตัน มีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ อ.ศรีสาคร, อ.จะแนะ และ อ.รือเสาะ ในวันนี้ ( 3 พ.ค.67 ) ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ กำหนดแผนปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยใช้เครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นบินจากกองบินที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี ในเวลา 11.00 น.คาดว่าจะสามารถปฏิบัติการได้ในเวลา 13.30 น.จะทำให้มีโอกาสฝนตกในพื้นที่สูง ขณะที่เหตุไฟไหม้สวนยางและสวนปาล์มของชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ต่างช่วยกันควบคุมเปลวเพลิง ซึ่งดำเนินการด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ชาวบ้านต้องช่วยกันขุดหลุมรอบสวนตัวเอง เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นมาอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะต้องใช้น้ำในปริมาณมาก เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้ง ไฟลุกไหม้จากใต้ผิวดินที่มีเศษวัชพืชสะสม รถดับเพลิงจากอบต.โฆษิต ได้ลำเลียงน้ำเข้ามาทำการดับไฟโดยรอบ เพื่อให้มีความชุ่มชื้นในชั้นผิวดิน ไฟจะได้ไม่ปะทุขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาทางเดินหายใจด้วย เพราะสภาพอากาศร้อนและมีควันไฟปกคลุมไปทั่วพื้นที่สำหรับความเสียหาย ล่าสุดพื้นที่สวนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 514 ไร่ จำนวน 48 ราย แยกเป็นสวนยาง จำนวน 14 ราย รวม 200 ไร่, สวนปาล์ม จำนวน 29 ราย รวม 300 ไร่ และสวนแตงโม จำนวน 5 ราย รวม 14 ไร่ ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก คาดกว่า 1,000 ไร
อ่านต่อ >15
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (2 พฤษภาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และอุณหภูมิสูง จนอาจเกิดพายุฤดูร้อนตามมาได้ โดยขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน พร้อมทั้งเฝ้าระวังอันตราย และเตรียมพร้อมรับมือกับพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (79/2567) ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่คาดว่าจะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 3 - 7 พฤษภาคม 2567 เนื่องจากมีความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก อาจทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ไทยตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสาน เนื่องจากมีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 44 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ในบริเวณประเทศไทยตอนบนที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อาจส่งผลให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนเกิดในบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้รัฐบาลเน้นย้ำขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณประเทศไทยตอนบน เฝ้าระวังอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และสำหรับเกษตรกรให้เตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง ที่ http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนในการเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด รวมถึง ระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยในบ้านเรือน รวมถึงระมัดระวังหากเกิดเหตุการณ์พายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองที่อาจตามมา จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ และติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน” นายชัย กล่าว
อ่านต่อ >35
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
จากกรณี เหตุการณ์ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย - ภาชี หมู่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโกดังร้าง มีคนลักลอบนำสารเคมีมาเก็บ เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางในคดี 4 พันตัน จุดเกิดเหตุเป็นโกดังที่ 4 และ 5 กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่ม ควันดำพวยพุ่ง สู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็น เป็นวงกว้างต่อมา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่สั่งการด้วยเอง พร้อมสั่งการขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้ามาเร่งควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด สั่งการในเรื่องดับเพลิงก่อนประสานหน่วยงานข้างเคียงรถดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด จัดการจราจร และเตรียมอพยพคนย้ายคนผู้ป่วยที่โรงพยาบาลภาชี กว่า 30 คน ย้ายไปก่อนเนื่องจากยังมีกลุ่มควันจำนวนมากอยู่ โดยจะย้ายไปโรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัยล่าสุดทาง ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศ โรงพยาบาลภาชี ปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่เกิดเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บสารเคมีของกลางลอยไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งห่างประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพจากการเผาไหม้ของสารเคมีภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา ขณะที่ โรงพยาบาลภาชี ได้อพยพผู้ป่วย ประมาณ 37 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่ได้มีการประสานเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย หรือโรงพยาบาลที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด แล้ว รวมถึงที่ โรงพยาบาลสนานและศูนย์อพยพ ที่ วัดโคกม่วง ตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสนานที่ พร้อมรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเตรียมที่นอน หมอน มุ่ง อาหารน้ำดื่มรวมถึงจัดทีมแทพย์มาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบบางส่วนเดินทางมาอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้แล้วพระครูพิพัฒน์ ศาสนกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดโคกม่วง เจ้าคณะตำบลภาชี เปิดเผยว่าหลังจากได้รับการประสานก็พร้อมเปิดเป็นศูนย์อพยพได้ทันที ซึ่งตอนนี้ก็มีมาแล้วบางส่วน ซึ่งตรงนี้สามารถรับได้เป็นร้อยคน และยังมีอาคารด้านในอีกและโรงเรียน ซึ่งสามารถรองรับได้เรื่อยๆ ซึ่งประสานวัดในเขตปกครองไว้แล้วถ้าไม่เพียงพอหรือเกิดเหตุฉุกเฉินภาพจาก ผู้สื่อข่าวอยุธยา
อ่านต่อ >49