รีเซต

BGRIM เป้า7.2กิกะวัตต์ ฐานทุนแกร่ง2หมื่นล้าน

BGRIM เป้า7.2กิกะวัตต์ ฐานทุนแกร่ง2หมื่นล้าน
ทันหุ้น
13 พฤศจิกายน 2563 ( 07:45 )
76

ทันหุ้น –BGRIM เป้ามีกำลังการผลิต 7.2 กิกะวัตต์ ภายในปี 2568 จากการ COD โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่มีกำลังการผลิตรวมกว่า 1,035 เมกะวัตต์  โชว์กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 ที่ 1,245 ล้านบาท โต 13% จากการเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้า และปริมาณการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

 

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยเผยว่า สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งด้วยเงินสดในมือกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 47 โครงการ มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับต่ำ 1.3 เท่า และได้รับการสนับสนุนจากหลายสถาบันการเงิน ซึ่งเพียงพอในการพัฒนาโครงการที่อยู่ในแผนทั้งหมด

 

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ray Power ในประเทศกัมพูชาขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าตามแผน มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4/2563-ไตรมาส 1/2564 นอกจากนี้ยังเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 980 เมกะวัตต์ มีกำหนดการ COD ในปี 2565-2566 ตามแผนที่วางไว้ พร้อมตั้งเป้าการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาการซื้อไฟฟ้าที่ 7.2กิกะวัตต์ ภายในปี 2568

 

*ลูกค้าอุตสาหกรรมฟื้น

 

ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดปริมาณการขายไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม และกลับสู่ภาวะปกติในเดือนกันยายน-ตุลาคม ด้วยปริมาณการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องมา 2 เดือนแล้ว จากการฟื้นตัวจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

 

โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์และโรงงานผลิตยางรถยนต์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของความต้องการภายในประเทศ รวมถึงจากการย้ายคำสั่งผลิตจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเติบโตตลอดช่วง 9 เดือนในปี 2563 ด้วยปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16% และ 12% ตามลำดับ

 

นอกจากนี้แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติยังเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีตามประมาณการของ ปตท. คาดจะมีราคาลดลงอีกราว 6-7% จากไตรมาส 3/2563

 

*Q3/63 กำไร 1.24 พันล.

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2563มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน โดยเป็นส่วนของบริษัทใหญ่ที่ 745 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้าจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในอัตราถึง 28% จากไตรมาสก่อนหน้า การปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง (ทำให้ล่าสุดได้รับรางวัล Power Plant Upgrade of the Year-Thailand จากนิตยสาร Asian Power) ซึ่งผลักดัน EBITDA Margin สู่ระดับสูงสุดที่ 30.4%

 

ทั้งนี้ BGRIM มีการกู้เงินสกุลต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงในส่วนของรายได้สกุลต่างประเทศ (natural hedge) ทำให้ในช่วงไตรมาส 3/2563 เกิดรายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยน 310 ล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดีรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่ไม่กระทบกระแสเงินสด และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 859 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของบริษัทใหญ่ที่ 501 ล้านบาท

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง