ททท.สายแทบไหม้ต่างชาติกระหน่ำโทรถามรายละเอียดวีซ่าพิเศษเข้าไทยพัก 9 เดือน

ททท.สายไหม้ต่างชาติกระหน่ำโทรถามรายละเอียดวีซ่าพิเศษเข้าไทยพัก 9 เดือน ททท.ผุดไอเดีย 14 วันกักตัว มีความหรรษาไม่น่าเบื่อ สร้างกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมจากห้องพักหรือบนระเบียง จัดสอนสมาธิ โยคะ ออนไลน์

ททท.สายแทบไหม้ - นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการออกวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาวได้ 270 วัน หรือ 9 เดือนนั้น สำนักงานททท. ในต่างประเทศต่างได้รับโทรศัพท์จากนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเมืองไทย สอบถามรายละเอียดและความคืบหน้าของโครงการ ขณะที่ ททท. ได้ประสานสำนักงานในต่างประเทศให้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้ามา คาดว่ากลุ่มแรกจะเข้ามาภายในเดือนต.ค.นี้

“ทันทีที่มีข่าวออกไป ททท. สำนักงานลอนดอน ก็ได้รับโทรศัพท์จำนวน 15 สาย และอีเมล์จำนวน 16 ฉบับ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ STV เช่น ติดต่อได้ที่ไหน และขั้นตอนเป็นอย่างไร ซึ่งในชั้นนี้ได้แจ้งไปว่าขอให้รอการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการ โดยเราจะติดต่อกลับพร้อมข้อมูลโดยเร็วต่อไป ขณะที่สำนักงาน ททท.”

นางศรีสุดา วณภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา ททท. กล่าวว่า การตอบรับจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในยุโรปดีมาก เมื่อครม. อนุมัติวีซ่าประเภท STV ต่างสอบถามเข้ามาว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ทันทีที่กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทำรายละเอียดปฏิบัติที่ชัดเจนออกมาแล้ว จะเป็นโอกาสที่เรียกว่า Big move จากทุกตลาดในยุโรป จากที่หยุดเดินทางมาหลายเดือน โดยเฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. เป็นจังหวะหน้าหนาวของทางยุโรป และวันหยุดพักผ่อนของฝรั่งจะมากกว่าเรา ถ้าต้องกักตัว 14 วันและอยู่เที่ยวได้อีก 14 วัน เชื่อว่าเขาจะเดินทางมา โดยเฉพาะถ้ากักตัว 14 วัน อยู่ในโรงแรมที่เปิดหน้าต่างออกไปก็เห็นชายทะเล ก็เชื่อว่าเขาสนใจ

“สิ่งที่เราพยายามคือทำอย่างไรให้ระหว่างการกักตัว 14 วันน่าสนใจ มีความหรรษา น่าอยู่ ไม่น่าเบื่อ มีสาระ ไม่ใช่แค่นั่งดูแต่เน็ทฟริกซ์ ต้องมีลูกเล่น เช่น โรงแรมอาจจะมีการจัดดนตรี จัดคอนเสิร์ตแล้วให้แขกยืนดูที่ระเบียง หรือมีจัดถ่ายทอดสดเข้าไปในห้องพักสอนการฝึกสมาธิ โยคะ ทำอาหาร ก็สามารถทำได้ ในขั้นแรกเอาคนกลุ่มนี้เข้ามาก่อนให้คนไทยเห็นว่าทำได้และเปิดใจรับ สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือความรู้สึกของคนไทย ขณะที่ประเทศคู่แข่งก็เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้”

นางศรีสุดา กล่าวต่อว่า สำหรับนักท่องเที่ยวลองสเตย์ หรือพำนักระยะยาว ตอนนี้นิยามของนักท่องเที่ยวประเภทนี้เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นกลุ่มคนสูงอายุ กลุ่มเกษียณ พำนักไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี เดี๋ยวนี้มีกลุ่มใหม่ๆ ที่เรียกว่า digital normad หรืออาชีพดิจิตอล เป็นคนหนุ่มสาวนอายุไม่เกิน 40 ปี อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ และมักอยู่นานกว่า 1 เดือน

มีคำถามว่าช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทำอะไร สิ่งแรกที่ทำคือต้องให้ชาวต่างชาติรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในใจเสมอ ต้องกระตุ้นอยู่เรื่อยๆ สร้างกระแสให้คิดถึงและไม่ให้ลืมประเทศไทย จึงทำหลายกิจกรรม เช่น ในช่วงโควิด-19 ตัวเลขการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่สูง จึงไปร่วมกับร้านอาหารไทยหลายแห่งที่มีคนสั่งอาหาร ก็นำข้อมูลเมืองไทยใส่ลงไปในถุงที่ส่งอาหารไปด้วย มีเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยว มีเกมส์ให้เล่น มีการทำเมนูอาหาร เช่น พิซซ่าหน้าแกงเขียวหวาน และช่วงนี้คนตกงานต้องเลื่อนออกไป ก็ร่วมกับรายการทีวีหาคู่แต่งงานให้มาแต่งงานในประเทศไทยเมื่อเดินทางได้ รวมทั้งสอนมวยไทย ดนตรีไทยออนไลน์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ทุกสำนักงานได้จัดประชุมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว สายการบินและสื่อมวลชน ของประเทศต่างๆ มาร่วมกันทำงานในลักษณะของธุรกิจต่อธุรกิจ ให้การอบรมเพื่อให้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น ทั้งจัดสัมมนาและคอร์สฝึกอบรมในรูปแบบออนไลน์ และจัดรถประชาสัมพันธ์ประเทศไทย เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ททท. กับผู้ประกอบการ ตลอดจนทำ E-roadshow บางเมืองก็เจอกันจริง บางเมืองก็เจอออนไลน์ เพราะในแต่ประเทศก็มีตัวแทนของโรงแรมต่างๆ ในไทยอยู่ที่นั่น ส่วนการซื้อขายเป็นลักษณะการจองเอาไว้ก่อน และท้ายที่สุดได้มีการทำวิจัยในแต่ละประเทศว่ามีความพร้อมจะเดินทางท่องเที่ยวเมื่อใด มีเป้าหมายไปที่ไหนก่อน หากต้องถูกกักตัวจะเห็นด้วยหรือไม่ เพื่อสำรวจวิเคราะห์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เพื่อตั้งรับหลังการระบาดของโควิด-19 ให้ได้ดีที่สุด

รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับ แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) คาดประกาศรายละเอียด กฏเกณฑ์ข้อบังคับ และวีซ่า STV มีรายละเอียดอย่างเป็นทางการ คงปลายเดือนก.ย. เพราะวันที่ 18 ก.ย. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันหารือร่างระเบียบร่วมกัน ก่อนออกประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว

โดยร่างระเบียบเบื้องต้นมี ดังนี้ ผู้ที่สนใจเดินทางด้วยวีซ่าพิเศษ STV ต้องดำเนินการ 1. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง, 2. ทำประกันสุขภาพประกันโควิด-19 ตามข้อกำหนดของรัฐบาล, 3. ข้อมูลที่ต้องแจ้งกับบริษัทผู้ประสานงานก่อนการเดินทาง มีรายละเอียดดังนี้ 3.1 โปรแกรมการเดินทางและกำหนดการที่อยู่ในประเทศไทย, 3.2 ผลการตรวจว่าไม่พบเชื้อ 3.3 ตั๋วเครื่องบินทั้งมาและกลับ หรือเอกสารเครื่องบินเช่าเหมาลำ และ Private Jet, 3.4 ลงนามในหนังสือยินยอมยืนยันการปฏิบัติตามระเบียบที่รัฐบาลไทยกำหนด, 3.5 เลือกโปรแกรม แพ็กเกจ ที่พัก ระหว่างอยู่ในประเทศไทย ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัทที่ผ่านการพิจารณาแล้วจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ส่วนคุณสมบัติของนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ มีดังนี้ 1. เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย 2. ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย และตกลงยินยอมกักตัวในห้องพัก จำนวน 14 วัน (ALSQ)

3. มีหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวภายในประเทศไทย (Long Stay) 3.1 หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก (ALSQ) หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ภายในประเทศไทย 3.2 หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง

ดังต่อไปนี้ (1) หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก ที่จะใช้เป็นที่พักหลังจากออกจากโรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักตัว (ALSQ) หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ตามระยะเวลาที่ประสงค์จะพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย (2) หลักฐานสำเนาโฉนดห้องชุดของที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลในครอบครัวของบุคคลต่างด้าว

(3) หลักฐานการเช่าที่พักประเภทคอนโดมิเนียมหรือบ้านพัก (4) หลักฐานการชำระเงินดาวน์ของบุคคลต่างด้าวในการซื้อหรือเช่าที่พักอาศัยประเภท คอนโดมิเนียมที่บุคคลต่างด้าวสามารถซื้อได้ตามกฎหมาย