รีเซต

ไทยป่วยโควิดที่ 33 ของโลก หายป่วย 2 หมื่นราย โคม่า 5 พัน “กทม.-ปากน้ำ-สมุทรสาคร” ยอดป่วยพุ่งไม่หยุด

ไทยป่วยโควิดที่ 33 ของโลก หายป่วย 2 หมื่นราย โคม่า 5 พัน “กทม.-ปากน้ำ-สมุทรสาคร” ยอดป่วยพุ่งไม่หยุด
มติชน
24 สิงหาคม 2564 ( 13:36 )
32
ไทยป่วยโควิดที่ 33 ของโลก หายป่วย 2 หมื่นราย โคม่า 5 พัน “กทม.-ปากน้ำ-สมุทรสาคร” ยอดป่วยพุ่งไม่หยุด

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรวม 213,308,068 ราย อาการรุนแรง 112,391 ราย รักษาหายแล้ว 190,855,688 ราย เสียชีวิตรวม 4,453,760 ราย

 

 

“ไทย”ป่วยโควิดอันดับ 33 ของโลก

ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด สหรัฐอเมริกา จำนวน 38,814,596 ราย อินเดีย จำนวน 32,460,328 ราย
บราซิล จำนวน 20,583,994 ราย รัสเซีย จำนวน 6,766,541 ราย ฝรั่งเศส จำนวน 6,624,777 ราย
ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 33 จำนวน 1,083,951 ราย

 

 

 

 

หายป่วย 20,059 ราย โคม่า 5,229 ราย

สำหรับสถานการณ์ในประเทศ มีติดเชื้อเพิ่ม 17,165 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 7,984 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 854 ราย จัดหวัดอื่นๆ รวม 67 จังหวัด 8,132 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 192 ราย จากต่างประเทศ 3 ราย

 

มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,055,088 ราย หายป่วยแล้ว 20,059 ราย หายป่วยสะสม 854,403 ราย รักษาอยู่ 192,334 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 30,930 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 161,404 ราย อาการหนัก 5,229 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,095 ราย เสียชีวิต 226 ราย เสียชีวิตสะสม 9,694 ราย

 

 

 

ทั่วไทยฉีดวัคซีนทะลุ 27 ล้านโดส

ภาพรวมได้รับการฉีดวัคซีนสะสมวันที่ 28 กุมภาพันธ์-23 สิงหาคม อยู่ที่ 27,612,445 โดส แยกเป็นเข็มที่1 จำนวน 20,830,673 ราย เข็มที่2 จำนวน 6,230,511 ราย และเข็มที่3 จำนวน 551,261 ราย

 

โดยวันที่ 23 สิงหาคมมียอดฉีดเพิ่ม 573,446 โดส แยกเป็นเข็มที่1 จำนวน 400,645 ราย เข็มที่2 จำนวน 165,508 รายและเข็มที่3 จำนวน 7,293 ราย

 

 

สียชีวิต 226 ราย คนแก่-มีโรคเรื้อรังดับมากสุด

สำหรับยอดผู้เสียชีวิต 226 ราย เป็นชาย 120 ราย หญิง 106 ราย คนไทย 215 ราย เมียนมา 8 ราย กัมพูชา จีน อย่างละ 1 ราย ค่ากลางอายุ 68 ปี ตั้งแต่ 21-98 ปี โดยทราบผลติดเชื้อและเสียชีวิตใน 9 วัน โดยเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 150ราย มีโรคเรื้อรัง 46 ราย รวมทั้ง 2 กลุ่มนี้อยู่ที่ 86% มีหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย เสียชีวิตที่บ้านและระหว่างนำส่ง 2 รายที่ปทุมธานี ปัจจัยเสี่ยงติดในพื้นที่สูงถึง 219 ราย

 

รายละเอียดผู้เสียชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ 68 ราย มีอายุ 60 ปี จำนวน 58 ราย จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ สมุทรสาคร 21 ราย ปทุมธานี 2 ราย สมุทปราการ 19 ราย นครปฐม 9 ราย นนทบุรี 2 ราย มีอายุ 60 ปี จำนวน 43 ราย

 

ภาคใต้ ได้แก่ ยะลา 4 ราย สงขลา 2 ราย นราธิวาส 2 ราย ชุมพร 2 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย มีอายุ 60 ปี จำนวน 7 ราย

 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ชัยภูมิ 3 ราย ร้อยเอ็ด 3 ราย อำนาจเจริญ 3 ราย นครพนม 3 ราย อุบลราชธานี 2 ราย บึงกาฬ 2 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย ยโสธร 1 ราย เลย 1 ราย สุรินทร์ 1 ราย มีอายุ 60 ปี จำนน 4 ราย

 

ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ กำแพงเพชร 6 ราย นครสวรรค์ 4 ราย ตาก 2 ราย สุโขทัย 1 ราย อุทัยธานี 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย มีอายุ 60 ปี 5 ราย

 

ภาคกลางได้แก่ อยุธยา 15 ราย เพชรบุรี 5 ราย สมุทรสงคราม 5 ราย อ่างทอง 5 ราย ปราจีนบุรี 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย ชลบุรี 3 ราย ราชบุรี 2 ราย ระยอง 1 ราย จันทบุรี 1 ราย มีอายุ 60 ปี 33 ราย

 

 

 

 

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ติดเชื้อ 1 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้ดเดินทางจากต่างประเทศ 3 ราย ได้แก่ อังกฤษ 1 ราย ในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และมาเลเซีย 2 ราย ผ่านช่องทางธรรมชาติ

 

 

ต่างจังหวัดแซงหน้า”กทม.-ปริมณฑล”

เมื่อดูภาพรวมประเทศการติดเชื้อในประเทศในวันนี้อยู่ต่างจังหวัด 71 จังหวัด ถึง 8,986 ราย คิดเป็น 53% กรุงเทพนและปริมณฑล 7,984 ราย คิดเป็น 47%

 

โดยวันนี้มี 3 จังหวัดที่ยอดติดเชื้อใหม่เกิน 1,000 ราย ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และมี 1 จังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 10 ราย คือ แม่ฮ่องสอนอยู่ที่ 7 ราย ยอดสะสม 262 ราย

 

 

“กทม.-ปากน้ำ-สมุทรสาคร”ยอดพุ่งเกินพันราย

สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อใหม่สูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 4,025 ราย สะสม 250,838 ราย สมุทรปราการ 1,731 ราย สะสม 69,700 ราย สมุทรสาคร 1,288 ราย สะสม 67,447 ราย ชลบุรี 816 ราย สะสม 56,188 ราย ราชบุรี 558 ราย สะสม 13,824 ราย นครราชสีมา 445 ราย สะสม 15,011 ราย พระนครศรีอยุธยา 381 ราย สะสม 17,535 ราย ฉะเชิงเทรา 376 ราย สะสม 20,850 ราย นนทบุรี 365 ราย สะสม 40,750 ราย และบุรีรัมย์ 331 ราย สะสม 11,005 ราย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง