รีเซต

ประณาม! ทัวร์ดำน้ำถ่ายรูปเหยียบซากเรือปะการัง เกาะราชา

ประณาม! ทัวร์ดำน้ำถ่ายรูปเหยียบซากเรือปะการัง เกาะราชา
TNN ช่อง16
14 กรกฎาคม 2563 ( 12:22 )
972
ประณาม! ทัวร์ดำน้ำถ่ายรูปเหยียบซากเรือปะการัง เกาะราชา

วันนี้ (14 ก.ค.63) เฟซบุ๊ก "ครรชิต คลิ้งขลิบ" เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเล โพสต์ภาพนักดำน้ำกลุ่มหนึ่งที่ดำน้ำไปถ่ายภาพกับซากเรือปะการังเทียมอย่างใกล้ชิด พร้อมระบุว่า 

"หลายปีที่ผ่านมา หลายภาคส่วน ร่วมกันอนุรักษ์ปะการัง ที่เป็นแหล่งทอ่งเที่ยวที่สร้างงานสร้างรายได้มหาศาลแก่ประเทศ และกว่าที่ปะการังจะเติบโตได้ใช้ระยะเวลานานหลายปี จึงมีคนมากมายช่วยกันคอยดูแลและรักษาไว้ 

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปะการังได้พักฟื้นเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีการผ่อนปรนเปิดให้กลับมาท่องเที่ยวได้ กลับพบการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นการทำร้ายปะการัง จึงวอนให้หยุดกิจกรรมที่ทำร้ายและทำลายปะการัง อย่าเข้าใกล้จนเกินไป ไม่ควรที่จะสัมพัส ไม่ควรจะไปนั่งทับ เมื่อคุณกล้าโพสต์ เราก็กล้าแชร์ แชร์ให้โลกรู้ว่ายังมีทริปแบบนี้อยู่"


เจ้าของเฟซบุ๊ก เปิดเผยกับ "TNN ประเด็นใหญ่" ว่า เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นไกด์ดำน้ำของบริษัททัวร์ ในลักษณะเชิญชวนให้ไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะราชา ก่อนจะมีการลบโพสต์ไปแล้ว 

แต่เขาสามารถบันทึกไว้ได้ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าอ่าวทือ ของเกาะราชา ซึ่งในอดีต เมื่อประมาณปี 2552 ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต ได้ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเกาะราชาใหญ่ ได้มีการจมเรือ “สตาร์ลูบี้” ตรงจุดนี้เพื่อทำปะการังเทียม ซึ่งผ่านมากว่า 11 ปี สภาพปัจจุบันนับว่าเป็นจุดที่ปะการังกลับมาอุดมสมบูรณ์จุดหนึ่ง 


แต่กลุ่มคนนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มกรุ๊ปทัวร์นักดำน้ำชาวไทย กลับเข้าไปเหยียบย่ำ ทั้งที่มีระเบียบร่วมกันไว้ว่า สามรถเข้าใกล้ในระยะที่สมควร และไม่ควรสัมผัส เพราะปะการังจะได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ เพราะถือว่าทำความเสียหายต่อทรัพยากร ซึ่งเป็นสมบัติของคนทั้งชาติ 

ขณะที่เฟซบุ๊ก “จิตอาสา Go Eco Phuket” ซึ่งเป็นเครือข่ายนักอนุรักษ์ทางทะเลฯ ได้ออกมาโพสต์ ประณามการกระทำของนักดำน้ำกลุ่มนี้ 

และล่าสุดทางสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง