ครม.เคาะแล้ว”คนละครึ่งพลัส”อายุตั้งแต่ 16 ปีรับสิทธิได้ สมัครเข้าร่วม 20-26 ต.ค.นี้

#ทันหุ้น ครม.เคาะแล้ว”คนละครึ่งพลัส”อายุตั้งแต่ 16 ปีรับสิทธิได้ สมัครเข้าร่วม 20-26 ต.ค.นี้ วงเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวม 8.8 หมื่นล้าน กระตุ้นจีดีพีปีนี้เพิ่ม 0.3-0.4%
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ครม.อนุมัติโครงการคนละครึ่งพลัสใช้งบ 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไตรมาสที่สี่ของปีนี้ไม่ติดหล่ม
เขากล่าวภายหลังการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณที่จะใช้กับโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มต้นใช้จ่ายได้ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้จนถึงสิ้นปีนี้ จำนวน 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนจำนวน 20 ล้านคน โดยประชาชนต้องควักเงินออกเองอีก 4.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรวมเป็นเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 8.8 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ การประชุมครม.ครั้งก่อนหน้ายังได้อนุมัติงบเติมเงินให้กับคนถือบัตรสวัสดิการ 13.4 ล้านคนคนละ 1,700 บาท ใช้งบ 2.3 หมื่นล้านบาท ทำให้ในช่วงปลายปีนี้จะมีเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรวมกว่า 1 แสนล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.3-0.4%
เขากล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัส กับโครงการเติมเงินให้กับคนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ ที่เดิมคาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.3% ให้สามารถขยายตัวได้ถึง 0.6%
"รัฐบาลจะทะยอยออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในทุกสัปดาห์ เพื่อผลักดันให้จีดีพีในใตรมาสที่สี่ของปีนี้ สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 1%"นายเอกนิติกล่าว
ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในโครงการคนละครึ่งในครั้งนี้ มาจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท และงบกลางของงบปี 2569 อีก 1.9 หมื่นล้านบาท
โครงการคนละครึ่งพลัส จะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ 15 ต.ค.ถึง 19 ธ.ค.นี้ คาดว่า จะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 1.5 ล้านร้านค้า
ในส่วนของประชาชน จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่ 20-26 ต.ค.นี้ โดยประชาชนที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในเฟสที่ห้าในสมัยรัฐบาลประยุทธ์ สามารถกดยืนยันสิทธิในแอปเป๋าตังได้ทันที
สำหรับความแตกต่างระหว่างโครงการคนละครึ่งพลัส กับโครงการคนละครึ่งในสมัยรัฐบาลประยุทธคือในครั้งนี้ลดอายุคนที่สามารถได้รับสิทธิ์ลงเหลืออายุ 16 ปีขึ้นไป จากก่อนหน้านี้ อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยวงเงินที่รัฐออกให้ 50% แต่ไม่เกิน 200บาท/วัน จากเดิม ออกให้ 50%แต่ไม่เกิน 150บาท/วัน
ในครั้งนี้คนที่อยู่ในระบบภาษีที่มี 11 ล้านคน จะได้รับวงเงินจากโครงการ 2,400 บาท มากกว่าคนที่ไม่อยู่ในระบบภาษีที่มี 9 ล้านคน ที่ได้รับวงเงินคนละ 2,000 บาท
ในครั้งนี้ นอกจากให้ร้านค้ารายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เข้าร่วมโครงการ ยังจะให้นิติบุคคลขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีและรวมถึงวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมด้วย รวมถึงfood delivery ก็สามารถร่วมโครงการนี้ได้ด้วย
นายเอกนิติ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสในครั้งนี้ยังมีโครงการที่จะช่วย up skill หรือ reskill ร้านค้าขนาดเล็ก โดยจะใช้ดิจิตอลมาช่วย
“สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ข้อมูลการค้าจะไม่ถูกส่งให้กับกรมสรรพากร เพื่อประเมินภาษีแต่อย่างใด”
เขากล่าวอีกว่า โครงการคนละครึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้พิสูจนแล้วว่าช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากคนมีรายได้น้อย เมื่อได้รับเงินจากช่วยเหลือจากรัฐ ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายทั้งหมดในทันทีซึ่งก่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสในครั้งนี้ จะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากถึง 33.5 ล้านคน รวมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยขณะที่ ในอดีตมีคนเข้าร่วมโครงการประมาณ 26 ล้านคน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการกรุงไทยกล่าวว่า กรุงไทยในฐานะสถาบันการเงินที่ดูแลแอปพลิเคชันของโครงการนี้ย้ำว่า แม้จะมีประชาชนเข้ามาใช้แอปในโครงการนี้มากขึ้น แต่เชื่อว่าระบบจะไม่ล่ม เพราะระบบสามารถรองรับได้ 5 หมื่นธุรกรรมต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากในอดีตเท่าตัว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
